วันอังคารที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2563

งูแต้มหล่น! อินเตอร์เซ็งชวดชัยโดนซาสซูโอโล่ไล่เจ๊าท้ายเกม


อินเตอร์ มิลาน ชวดคว้าสามแต้มในบ้านอย่างน่าเสียดาย


หลังโดน ซาสซูโอโล่ ไล่เจ๊าท้ายเกม 3-3 ทำให้แบ่งแต้มกันไป ส่งผลให้ "งูใหญ่" ยังยึดอันดับ 3 ของตาราง ตามหลังจ่าฝูง ยูเวนตุส 8 คะแนน ในศึกกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา ศึกกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี นัดที่ 27 เมื่อวันพุธที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา อินเตอร์ มิลาน ทีมอันดับ 3 เปิดบ้านรับการมาเยือนของ ซาสซูโอโล่

ทีมอันดับ 12 เกมนี้เจ้าถิ่นส่ง อเล็กซิส ซานเชซ ยืนจับคู่กับ โรเมลู ลูกากู ในแดนหน้าโดยมี คริสเตียน เอริคเซ่น รับบทหน้าต่ำ ส่วนทีมเยือนใช้ ฟิลิป ยูริซิช ปั้นเกมและทิ้ง ฟรานเชสโก้ คาปูโต้ เป็นทีเด็ดในแดนหน้า ออกสตาร์ทเกมมาได้แค่ 4 นาที กลายเป็น ซาสซูโอโล่ ที่ชิงขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะสวนกลับเร็วขึ้นมา ฟิลิป ยูริซิช ไหลบอลออกขวาให้ ฟรานเชสโก้ คาปูโต้ หลุดเข้าไปซัดด้วยขวาผ่านตัว ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช เข้าไปอย่างใจเย็น นาที 12 "งูใหญ่" เกือบได้ลุ้นตีเสมอ หลัง คริสเตียโน่ บิรากี เปิดบอลมาเสาสองให้ อเล็กซิส ซานเชซ โขกหลุดกรอบออกไป อีก 3 นาทีถัดมา อเล็กซิส ไหลให้ บิรากี ได้ซัดด้วยซ้ายมุมแคบบ้างแต่บอลยังไปติดเซฟของ อันเดรีย คอนซิยี่ นาที 33 วิคเตอร์ โมเสส ได้โอกาสลุ้นบ้างหลังกดด้วยขวาไปติดบล็อก ถัดมาอีกนาทีเดียวทีมเยือนตอบโต้ขึ้นมา เฌเรมี่ โบก้า ลากบอลขึ้นมาแล้วแทงให้ โดเมนิโก้ เบราร์ดี้ กดด้วยซ้ายนอกกรอบหลุดเสาออกไปไกล

messengerapkapp.com

จบครึ่งแรก อินเตอร์ มิลาน พลิกมานำ ซาสซูโอโล่ 2-1


นาที 40 อินเตอร์ มาได้ลูกที่จุดโทษหลัง เฌเรมี่ โบก้า ไปทำฟาวล์ มิลาน สคริเนียร์ ในกรอบเขตโทษผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษก่อนที่ โรเมลู ลูกากู จะสังหารเข้าไปไม่พลาดช่วยให้ "งูใหญ่" ไล่ตีเสมอ 1-1 ช่วงทดเจ็บ นาที 45+1 เจ้าบ้านมาแซงขึ้นนำ 2-1 จากจังหวะชิ่งของ อเล็กซิส ซานเชซ จ่ายสั้นๆให้ คริสเตียโน่ บิรากี

หลุดเข้าไปล้มตัวยิงด้วยซ้ายแสกหน้า อันเดรีย คอนซิยี่ นายด่านทีมเยือนเข้าไปอย่างเด็ดขาด ครึ่งหลัง นาที 63 อินเตอร์ ชวดได้ประตูที่สามนำห่าง หลัง โรเมลู ลูกากู ซัดไปติดเซฟ คอนซิยี่ ถูกปัดออกมาเข้าทาง  โรแบร์โต้ กายาร์ดินี่ ตามซ้ำด้วยขวาโล่งๆแต่บอลไปชนคานอย่างน่าเสียดาย นาที 80 แอชลี่ย์ ยัง มาทำเสียจุดโทษหลังไปฟาวล์ใส่  เมิร์ต มูลดูร์ ผู้ตัดสินเป่าให้จุดโทษแก่ทีมเยือนทันที ก่อนที่ โดเมนิโก้ เบราร์ดี้ ห้องเครื่องตัวเก่งจะซัดเข้าไปไม่พลาดให้ ซาสซูโอโล่ ไล่ตีเสมอเจ้าถิ่น 2-2 กระนั้น นาที 86 "งูใหญ่" มาแซงขึ้นนำอีกครั้งเป็น 3-2 จากตัวสำรองอย่าง อันโตนิโอ คันเดรว่า เปิดฟรีคิกมาให้ บอร์ฆา บาเลโร่ หลุดกับดักล้ำหน้าวิ่งมาแปด้วยขวาเข้าไป messengerapkapp.com แต่แล้ว นาทีที่ 89 ทีมเยือนมาไล่ตีเสมอ 3-3 ได้ทันควัน จากจังหวะต่อเนื่องจากลูกเตะมุม บอลเลยมาเสาไกลถึง ลูคัส ฮาราสลิน กระชากเข้าไปในกรอบแล้วกึ่งยิงกึ่งผ่านไปหน้าประตู บอลเลยมาถึง จานจาโคโม มัญญานี่ ยิงจ่อๆเข้าไปไม่เหลือ

ช่วงทดเจ็บ นาที 90+3 เจ้าถิ่นมาเหลือแค่ 10 คน หลัง มิลาน สคริเนียร์ โดนใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม แต่ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีสกอร์เพิ่มเติม จบเกม อินเตอร์ มิลาน ทำได้แค่เสมอกับ ซาสซูโอโล่ 3-3 แบ่งแต้มกันไป ส่งผลให้ "งูใหญ่" ยังรั้งอันดับ 3 มี 58 คะแนน ส่วน ซาสซูโอโล่ อยู่ที่ 12 มี 33 คะแนน

ทนไม่ไหว!คล็อปป์ร่วมเฉ่งแฟนเบิร์นลี่ย์เย้ยคนผิวสี

เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล ออกโรงเฉ่งสาวก เบิร์นลี่ย์ 


ที่ทำป้ายตอบโต้การรณรงค์เรียกร้องความเท่าเทียมกันให้คนผิวสี พร้อมกระตุ้นให้ทุกฝ่ายทำการสอนเด็กๆ เรื่องความเท่าเทียมกันตั้งแต่ตอนนี้เลย เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ตำหนิแฟนบอล เบิร์นลี่ย์ ที่ทำป้ายข้อความเชิงเยาะเย้ยและตอบโต้กระแสการเรียกร้องความเท่าเทียมกัน

ให้กับคนผิวสี ในช่วงก่อนเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ เบิร์นลี่ย์ ออกไปแพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-5 เมื่อวันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมา ช่วงหลายวันที่ผ่านมาหลายที่ทั่วโลกมีการรณรงรค์เรียกร้องความเป็นธรรมให้กับคนผิวสี ภายใต้สโลแกน "ชีวิตคนผิวสีก็มีค่า" (Black lives matter) หลังจากที่ จอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวสีชาวอเมริกันรายหนึ่งเสียชีวิตจากการที่ เดเร็ค เชาวิน ตำรวจผิวขาวเข้าจับกุมเขาโดยที่ใช้เข่ากดเข้าที่คอของ ฟลอยด์ จนทำให้ ฟลอยด์ หายใจไม่ออก

martysmotors.com

คล็อปป์ เผยถึงประเด็นนี้ว่า


ทั้งนี้ บรรดาทีมต่างๆ ใน พรีเมียร์ลีก ก็ร่วมรณรงค์เรื่องนี้เช่นกัน ด้วยการคุกเข่าในช่วงก่อนลงเล่นแต่ละนัด อย่างไรก็ตาม ในช่วงก่อนเกมระหว่าง แมนฯ ซิตี้ กับ เบิร์นลี่ย์ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา มันมีเครื่องบินลำหนึ่งบินผ่าน เอติฮัด สเตเดี้ยม พร้อมกับป้ายข้อความที่บอกว่า "ชีวิตคนผิวขาวก็มีค่า เบิร์นลี่ย์" (White lives matter Burnley) 

เพื่อเป็นการสวนกลับอีกฝ่ายว่าคนผิวขาวก็มีค่าเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม การกระทำดังกล่าวก็โดนหลายฝ่ายรุมตำหนิอย่างหนัก คล็อปป์ เผยถึงประเด็นนี้ว่า "แน่นอนอยู่แล้วว่าทุกชีวิตน่ะมีค่า คุณไม่จำเป็นต้องออกมาทำแบบนั้นเพื่อสื่อถึงประเด็นที่ว่าเลย การที่ทำแบบนั้นมันแสดงให้เห็นว่าคุณไม่เข้าใจอะไรแม้แต่นิดเดียว martysmotors.com  มันเป็นอีก 1 สัญญาณที่แสดงให้เห็นว่าตอนนี้เรายังไม่ได้อยู่ในจุดที่ต้องการ (สำหรับการเรียกร้องหาความเท่าเทียมกันให้กับคนผิวสี)" "เราต้องทำการโน้มน้าวผู้คนให้มากกว่านี้, ต้องทำให้คนมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องแบบนี้มากขึ้น และให้ความรู้กับลูกๆ ของเราเกี่ยวกับความเท่าเทียมกันตั้งแต่ตอนที่พวกเขายังตัวเล็กๆ เราต้องสอนให้พวกเขารู้ว่าเราทุกคนต่างก็เป็นคนแบบเดียวกัน"

"จริงอยู่ว่าในอดีตเราอาจจะล้มเหลวในเรื่องนั้น แต่เรื่องนั้นมันผ่านไปแล้ว ตอนนี้มันเห็นได้ชัดว่ายังมีบางคนในรุ่นนี้ที่ไม่อยากทำความเข้าใจถึงเรื่องนั้น และเราก็ได้เห็นตัวอย่างถึงเรื่องนั้นไปแล้วเมื่อคืนก่อน มันเป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่ามันยังต้องใช้เวลามากกว่านี้อีกเพื่อที่จะโน้มน้าวใจทุกคนให้ได้"

ช่วยทีมได้นะ!ฮาเมสรับสุดงงได้โอกาสลงเล่นน้อย


ฮาเมส โรดริเกซ มิดฟิลด์ เรอัล มาดริด ก้มหน้ารับ ไม่เข้าใจว่าทำไมตนเองถึงไม่โดนใช้งานมากเท่าไหร่ในช่วงที่ผ่านมา 


ต่อให้จะเข้าใจว่า ซีเนดีน ซีดาน มีทีมในใจอยู่แล้วก็ตาม พร้อมแย้มว่าไม่ปิดโอกาสที่จะย้ายไปเล่นกับที่อื่นด้วย ฮาเมส โรดริเกซ กองกลาง เรอัล มาดริด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งวงการ ลา ลีกา สเปน ยอมรับว่าตนไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมตลอดช่วงที่ผ่านมาถึงไม่ได้รับโอกาสลงเล่นกับทีมมากเท่าที่ควร

เรอัล ควักเงินราว 63 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,520 ล้านบาท) เพื่อคว้าตัว ฮาเมส มาจาก อาแอส โมนาโก เมื่อช่วงซัมเมอร์ ปี 2014 โดยที่ตอนนั้นดาวเตะชาวโคลอมเบียได้รับการยกย่องจากหลายฝ่ายว่ามีแววที่จะเป็นนักเตะชั้นยอดในอนาคต แถมยังมีดีกรีเป็นดาวซัลโวสูงสุดของศึก ฟุตบอลโลก 2014 ด้วย อย่างไรก็ตาม ดาวเตะวัย 28 ปีก็ไม่สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงภายในทีมได้ แถมมีช่วงหนึ่งที่ยังโดนปล่อยให้ บาเยิร์น มิวนิค ยืมตัวไปใช้งานด้วย ส่วนซีซั่นนี้เขาก็เพิ่งได้ลงเล่นในลีกให้ทีมไปเพียง 8 นัด ซึ่งถึงแม้ส่วนหนึ่งมันจะเป็นเพราะเขาโดนอาการบาดเจ็บเล่นงาน แต่ในช่วงที่เขาหายเจ็บแล้วเจ้าตัวก็ยังไม่ถูกส่งลงสนามอยูดี

luminokaya.com

หลังจากโดนถามระหว่างให้สัมภาษณ์กับ โกล คาราโคล สื่อรายหนึ่งว่าทำไมเขาถึงไม่ได้ลงเล่นกับทีมนั้น 


เจ้าตัวก็ตอบว่า "นั่นเป็นคำถามที่ดีเลยนะ ผมเองก็อยากรู้เหมือนกัน อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้นั่นแหละว่ามันเป็นเรื่องยากมากๆ ที่จะทำการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเมื่อคุณพาทีมคว้าแชมป์รายการใหญ่ๆ มาครองได้ด้วยนักเตะที่คุณเชื่อใจ และเมื่อคุณมีนักเตะที่เป็นแกนกลางของทีมที่ประสบความสำเร็จอยู่ในทีมอยู่แล้ว

แต่ในขณะเดียวกันมันก็เป็นเรื่องที่ทำใจยอมรับได้ยากมากๆ ว่าทำไมโค้ชถึงไม่เคยใช้งานคุณเลย ถ้าคุณได้รับโอกาสลงเล่นแค่นิดเดียวแล้วล่ะก็ คุณก็จะไม่มีโอกาสที่จะได้แสดงให้เห็นว่าคุณสามารถทำอะไรได้บ้าง คนที่อยู่ในวงการฟุตบอลรู้ดีว่าผมหมายถึงอะไร "ผมอยากลงเล่นอยู่เสมอ ผมเป็นคนที่ชอบการแข่งขัน จริงอยู่ว่า เรอัล มาดริด มีนักเตะเก่งๆ อยู่ในทีมหลายคน แต่ผมก็รู้ดีว่าด้วยพรสวรรค์ของผมแล้วน่ะ luminokaya.com ผมก็สามารถช่วยทีมได้ในหลายๆ ตำแหน่งถ้าผมได้ลงเล่นบ่อยกว่านี้อีกสักนิด แต่ผมก็เข้าใจได้นะว่าตอนนี้ (เทรนเนอร์ เรอัล ซีเนดีน) ซีดาน มีฟันเฟืองของทีมที่เขาต้องการแล้ว เขาได้แชมป์หลายรายการกับเหล่านักเตะที่เขาเชื่อมั่น"

ทั้งนี้ โรดริเกซ ให้สัมภาษณ์ในเชิงไม่ปิดโอกาสที่จะย้ายไปเล่นกับที่อื่นด้วย โดยพอโดนถามว่าเขาอยากอยู่กับ เรอัล ต่อไปหรือไม่นั้น เจ้าตัวก็ตอบว่า "ไม่มีใครรู้หรอกว่าอนาคตมันจะเกิดอะไรขึ้น แต่ถ้าจะให้ผมเลือกล่ะก็นะ ผมก็อยากไปอยู่กับสโมสรที่จะช่วยให้ผมแสดงคุณภาพของตัวเองออกมาได้มากกว่า"

กลัวมาจนถึงตอนนี้!เบนท์เผยความโหดของคีนสมัยอยู่วิลล่า


ดาร์เรน เบนท์ ระบุ 


สมัยที่ตนเล่นอยู่กับ แอสตัน วิลล่า นั้น รอย คีน ที่ตอนนั้นเป็นผู้ช่วยกุนซือของทีม เคยขังนักเตะเอาไว้ในห้องแต่งตัวเพื่อด่าเหล่าพ่อค้าแข้งเป็นเวลาถึง 2 ชั่วโมง พร้อมบอกว่าเหตุการณ์ในวันนั้นยังทำให้ตนรู้สึกกลัวมาจนถึงทุกวันนี้ ดาร์เรน เบนท์ อดีตกองหน้าชาวอังกฤษ เปิดเผยว่า รอย คีน ตำนานกองกลางชาวไอริช เคยขังนักเตะในห้องแต่งตัวเป็นเวลา 2 ชั่วโมงเพื่อตำหนิแข้งเหล่านั้นอย่างรุนแรง 

ในตอนที่ คีน ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมของ แอสตัน วิลล่า คีน รับงานผู้ช่วยกุนซือของ วิลล่า เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมปี 2014 โดยที่ตอนนั้น พอล แลมเบิร์ต เป็นกุนซือของทีมอยู่ แต่เขาก็อยู่กับทีมจนถึงช่วงเดือนพฤศจิกายนของปีเดียวกัน เพราะหลังจากนั้นเขาตัดสินใจไปเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมของทีมชาติสาธารณรัฐไอร์แลนด์ ซึ่งช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา คีน กลายเป็นประเด็นที่หลายคนให้ความสนใจ หลังจากที่เขาออกมาด่า แฮร์รี่ แม็กไกวร์ และ ดาบิด เด เคอา 2 ดาวเตะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบรุนแรงสุดๆ

louisvilleghostwalks.com

เบนท์ ซึ่งตอนนั้นอยู่กับ วิลล่า เผยว่า 


"เขาเป็นคนที่น่ากลัวมากๆ บางครั้งเขาจะสติแตกไปเลย แต่ผมก็เข้าใจได้นะว่าทำไมเขาถึงแสดงอารมณ์ออกมาแบบนั้น เพราะเมื่อคุณเป็นนักเตะชั้นยอด รวมถึงอาจจะถึงขั้นเป็นหนึ่งในนักเตะที่เก่งที่สุดอย่าง รอย คีน แล้วน่ะ มันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่เขาจะไม่เข้าใจว่าทำไมนักเตะอย่างพวกเราที่ แอสตัน วิลล่า ถึงทำพลาดกันบ่อยๆ 

ในหัวของเขาแล้วมันเหมือนกับว่าเขาหาเหตุผลไม่ได้ (ว่าทำไมนักเตะ วิลล่า ถึงผิดพลาดกันเยอะ) อย่างเช่นประมาณว่า -ทำไมแกถึงผ่านบอลจากจุดนี้ไปจุดนั้นไม่ได้?- เขาจะไม่เข้าใจเรื่องแบบนั้นเลย" "ผมจำได้แม่นเลยว่ามีเกมหนึ่งที่เราเจอกับ คิวพีอาร์ (ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส) วันนั้นเราแพ้ แล้วเขาก็เข้ามาคุยกับเราในห้องแต่งตัว ตอนนั้น พอล แลมเบิร์ต ถอยฉากไป และ รอย ก็เริ่มด่ากราด louisvilleghostwalks.com วันนั้นเป็นเกมที่เตะกันในตอนดึก กว่าที่มันจะจบมันก็มีการปิดไฟในสนามไปหมดแล้ว ส่วนแฟนบอลที่เคยรออยู่นอกสนามก็กลับบ้านไปกันหมดแล้ว เพราะเราอยู่ในห้องแต่งตัวเป็นเวลาถึง 2 ชั่วโมง เขาระเบิดอารมณ์อย่างหนัก" "เขาพูดเกี่ยวกับเครื่องดื่ม ลูโกซาด ที่นักเตะดื่ม การที่นักเตะรับการนวดเยอะเกินไป และการที่หลายคนเล่นโยคะ ที่จริงตอนนั้น รอน ฟลาร์ มีอาการบาดเจ็บ ผมคิดว่าเขาหน้าแข้งแตกล่ะทั้ง 

แต่ รอย ก็พูดประมาณว่า -นักฟุตบอลพักนานขนาดนั้นเพียงเพราะแค่หน้าแข้งแตกได้ยังไงกันวะ ?- เขาเดินด่านักเตะไปทั่วห้องแต่งตัว ไม่มีใครอยากมองเขาโดยตรงเลย เพราะวินาทีที่คุณทำอย่างนั้นน่ะ เขาก็จะจ้องมองกลับมาที่คุณทันทีแน่นอน ทุกคนนั่งนิ่งๆ เป็นเวลา 2 ชั่วโมง ทุกวันนี้ผมยังรู้สึกหวาดผวาดกับสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้นอยู่เลย พูดตามตรงเลยนะ เขาน่ะน่ากลัวสุดๆ"

วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2563

เท่าไหร่?เจอร์ราร์ดเผยค่าตัวที่เชลซีเคยยื่นซื้อเมื่อปี2004


สตีเว่น เจอร์ราร์ด เผยว่า


เมื่อปี 2004 เชลซี ตัดสินใจยื่นเงิน 37.5 ล้านปอนด์เพื่อเป็นค่าตัวของตน พร้อมยันว่าไม่เสียดายเลยที่อดย้ายทีมในตอนนั้น สตีเว่น เจอร์ราร์ด ตำนานกองกลางของ ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เปิดเผยว่าตอนปี 2004 ที่ เชลซี สนใจจะคว้าตนไปร่วมทัพนั้น อีกฝ่ายยื่นข้อเสนอขอซื้อตนด้วยค่าตัว 37.5 ล้านปอนด์

ซึ่งเทียบเป็นเงินในปัจจุบันที่ 52.67 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,106.8 ล้านบาท) เจอร์ราร์ด ถือเป็นนักเตะที่แฟนบอล ลิเวอร์พูล รักเป็นอย่างมาก เพราะเขาเป็นผลผลิตจากอะคาเดมี่ของทีมโดยตรง, เป็นเด็กจากย่านเมอร์ซี่ย์ไซด์ และไม่เคยเล่นให้ทีมใหญ่ในทวีปยุโรปทีมอื่นเลย อย่างไรก็ตาม ที่จริงดาวเตะชาวอังกฤษก็เคยเกือบย้ายจาก "หงส์แดง" ไปอยู่กับ เชลซี ในช่วงซัมเมอร์ ปี 2004 เหมือนกัน หลังจากที่ โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีม เชลซี ในตอนนั้น ตามจีบเขาอย่างหนัก และ เจอร์ราร์ด ก็เคยมีความคิดที่จะไปเล่นในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ด้วย

someonewith.com

เจอร์ราร์ด กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับ แกรี่ เนวิลล์ ตำนานแบ็กขวาของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ว่า 


"ที่จริงฉันเสียใจนิดหน่อยที่ตอนนั้นแสดงท่าทีอยากย้ายทีมไป รวมถึงเสียใจกับการที่ทุกอย่างมันออกมาเป็นแบบนั้น ความจริงก็คือตอนนั้นฉันไม่รู้ว่าสถานะของฉันกับ ราฟา มันเป็นยังไงกันแน่ ราฟา เคยคุยกับฉันแล้วบอกว่า -ฉันรู้ดีว่าเอเยนต์ของนายกำลังคุยกับ เรอัล มาดริด และ เชลซี อยู่-"

"ตอนนั้นฉันระแวงมากๆ ว่า ราฟา จะยอมรับเงินก้อนโตเพื่อเอาไปพยายามสร้าง ลิเวอร์พูล ชุดใหม่ขึ้นมา ตอนนั้น เชลซี ยื่นข้อเสนอเข้ามาที่ 37.5 ล้านปอนด์ ตอนนั้นมันถือเป็นจำนวนเงินที่เยอะมากๆ แต่ถ้าเอาเงินก้อนนั้นมาใช้ในตอนนี้มันจะสามารถซื้ออะไรได้บ้างกันล่ะ ?" someonewith.com ทั้งนี้ เนวิลล์ คนพี่ หยอกเล่นๆ ว่าเงิน 37.5 ล้านปอนด์ในสมัยนี้สามารถซื้อ เฟร็ด กองกลาง แมนฯ ยูไนเต็ด ได้แค่ครึ่งตัวเท่านั้น หลังจากค่าตัวที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จ่ายไปเพื่อซื้อ เฟร็ด ก็คือ 52 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,080 ล้านบาท)

หลังจากนั้น เจอร์ราร์ด ก็เสริมว่าตนไม่เคยรู้สึกเสียดายเลยที่อดย้ายทีม เพราะ ลิเวอร์พูล คือทีมที่ตนรักจนสุดหัวใจ "มูรินโญ่ มีส่วนสำคัญอย่างมากในเรื่องนั้น การที่ตอนนั้นฉันยังไม่โตเป็นผู้ใหญ่เท่าไหร่มันทำให้ฉันคิดเกี่ยวกับการย้ายทีม และสนใจไอเดียนั้นนิดหน่อย แต่ตอนนี้ฉันก็ไม่นึกเสียดายอะไรอีกต่อไปแล้ว เพราะว่า ลิเวอร์พูล คือสโมสรที่ฉันรัก และมันก็ควรจะเป็นอย่างนั้น"

บู๊มันส์หยด! เซบีย่าตามตีเจ๊าบียาร์เรอัลสองหนเบียดตราหมีขึ้นที่3


เซบีย่า แสดงความใจสู้แบบไม่มีถอย เดินหน้าตามตีเสมอ "เรือดำน้ำสีเหลือง" บียาร์เรอัล ถึงสองหน


ก่อนจบเสมอไป 2-2 เก็บหนึ่งคะแนน ทีมเยือนดีพอขยับแซง แอต.มาดริด ขึ้นที่ 3 ด้วยคะแนนที่มากกว่าหนึ่งแต้ม ส่วนเจ้าถิ่นกระโดดนั่งที่ 6 เช่นกัน ในการแข่งขันศึกฟุตบอลลาลีกา สเปน คืนวันจันทร์ที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา ศึกฟุตบอลลาลีกา สเปน คืนวันจันทร์ที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา "เรือดำน้ำสีเหลือง" บียาร์เรอัล ที่ผลงานดีตั้งแต่รีสตาร์ทลีกกลับมาคว้าชัยสามนัดติด ฆาเบียร์ กาเยฆา กุนซือคนเก่งเจ้าถิ่นเร้าลูกทีมต้องซิวสามแต้มเท่านั้น 

หากทำได้ขยับขึ้นท็อปไฟว์ทันที แถมเพิ่มโอกาสแย่งตั๋ว ชปล.อีกด้วย นัดนี้มีตัวชูโรงอย่าง "ปาโก้ อัลกาเซร์" ตะบันรับทีมเยือน เซบีย่า ที่แมตช์ล่าสุดขุนพลของ จูเลน โลเปเตกี เพิ่งแบ่งแต้มกับ บาร์เซโลน่า สำเร็จ ความมั่นใจเต็มพิกัด มองถึงการป้องกันอันดับและโควตาบอลยุโรปถ้วยใหญ่ ใส่ชื่อ "เอเวร์ บาเนก้า" เป็นจอมทัพส่วน "ลูกัส โอกัมโปส" มีชื่อสำรอง เพียงแค่นาทีที่ 3 เซร์คิโอ เอสคูเดโร ฟูลแบ็กทีมเยือนโยนบอลยาวเลาะริมสนามทางซ้าย ยูเซฟ เอ็นเนเซรี่ ปรี่มาเก็บบอลก่อนลากหนีแนวรับเจ้าถิ่นเกือบถึงเส้นหลัง ปาดมากลางเขตโทษ จูลส์ กูงเด้ สปีดมาซัดบอลแต่เหินข้ามคานออกไป เรือดำน้ำออกนำนาทีที่ 18 เคราร์ด โมเรโน่ หยอดบอลจากกลางสนามระยะ 25 หลาเยื้องมาทางขวา บอลลอยมาในเขตโทษ แซมโบ อันกิสซ่า วิ่งสอดมาโหม่งบอลจังหวะแรกติดตัว โธมัส วาคลิก นายด่านทีมเยือน แต่ยังมี ปาโก้ อัลกาเซร์ ยิงซ้ำเข้าไปตุงตาข่าย sirreyeh.org ทีมเยือนเร่งเอาคืนนาทีที่ 24 เอเวร์ บาเนก้า เปิดลุกเตะมุมทางด้านขวามากลางเขตโทษ ราอูล อัลบิโอล กองหลังบียาร์เรอัล โขกสกัดออกมาทางริมกรอบเขตโทษทางซ้าย แต่มีดาวเตะทีมเยือน โยน ฆอร์ดาน จับบอลได้ก่อนลากมาถึงเส้นกรอบเขตโทษแล้วปั่นบอลโค้ง ทว่า เซร์คิโอ อาเซนโฆ นายทวารเจ้าถิ่นรับไว้ได้

sirreyeh.org

บียาร์เรอัลชวดโอกาสนำห่าง


นาทีที่ 30 เคราร์ด โมเรโน่ รับบอลเปิดโด่งจากเพื่อนร่วมทีมบริเวณกลางสนาม หัวหอกเจ้าถิ่นเอี่ยวตัววอลเลย์ในเขตโทษ แต่ว่าบอลไม่หนีตัว โธมัส วาคลิก มือกาวเซบีย่า ล้มตัวรับไว้ได้ เซบีย่าตีคืนนาทีที่ 39 แฟร์นาน จ่ายบอลจากกลางสนามออกมาให้ เซร์คิโอ เอสคูเดโร รับบอลก่อนตั้งป้อมส่องไกลจากหน้ากรอบเขตโทษเอียงมาด้านซ้าย บอลพุ่งไซด์ก้อยเล็กน้อยผ่านมือ เซร์คิโอ อาเซนโฆ ที่พยายามเหยียดสุดตัวป้องกัน ทีมดังแคว้นอันดาลูเซียทำสำเร็จ
     
แต่แล้วช่วงทดเจ็บนาทีที่ 45+4 ซานติ กาซอร์ล่า ครอสลูกเตะมุมฝั่งขวา บอลโด่งมาบริเวณกรอบ 6 หลา และเป็น เปา ตอร์เรส กองหลังเจ้าบ้านกระโดดโหม่งคนเดียวแบบไร้คนประกอบ บอลเข้าเสียบตาข่ายตรงเสาสอง จบ 45 นาทีแรก บียาร์เรอัล ออกนำอยู่ 2-1 เซบีย่าบุกอีกนาทีที่ 51 มูนีร์ เอล อัดดาดี้ ลองโยนบอลจากกลางสนามให้เพื่อนแต่บอลไปโดนมือผู้เล่นเจ้าถิ่น กรรมการเป่าให้เป็นแฮนด์บอลเป็นฟรีคิกระยะ 25 หลากลางสนาม โยน ฆอร์ดาน อาสารับหน้าที่แต่เจ้าตัวปั่นฟรีคิกไม่ผ่านกำแพงฝ่ายตรงข้าม พลาดจังหวะทำสกอร์ไปแบบไม่ได้ลุ้น ทีมเยือนชวดตีเจ๊านาทีที่ 54 เซร์คิโอ เอสคูเดโร ทิ้งบอลขึ้นหน้าให้ มูนีร์ เอล อัดดาดี้ ปรี่มาเก็บบอลกระชากมาทางริมสนามด้านซ้าย ลากเข้ามาเกือบถึงกรอบเขตโทษ โยนบอลสั้นเข้าเขตโทษไปที่ เอเวร์ บาเนก้า สปีดมายกเท้าแปะบอลต่อให้ เซร์คิโอ เอสคูเดโร ที่แอบเติมมาหลุดเข้าไปซัดในเขตโทษประมาณ 7 หลาแต่บอลออกข้างเสาแบบเหลือเชื่อ ผู้มาเยือนเซ็งหนักนาทีที่ 59 เฆซุส นาบาส แข้งเก๋าตัวสำรองได้โอกาสครอสบอลจากด้านข้างฝั่งขวา บอลลอยเข้ามาในเขตโทษ ยูเซฟ เอ็นเนเซรี่ โถมตัวเบียดแนวรับเจ้าบ้านโหม่งบอลเต็มศีรษะกำลังจะเข้าไปทว่า เซร์คิโอ อาเซนโฆ โชว์สุดยอดการเซฟพุ่งปลายได้เต็มฝ่ามือ ก่อนเพื่อนร่วมทีมเตะสกัดออกไป
     
เซบีย่าตามเจ๊าอีกหนนาทีที่ 63 เฆซุส นาบาส ยังคงพยายามต่อเนื่อง เจ้าตัวหยอดบอลจากหน้ากรอบเขตโทษด้านขวา บอลย้อยมาหา มูนีร์ เอล อัดดาดี้ ทิ้งตัวซัดตามน้ำจังหวะเดียวด้วยเท้าซ้ายบอลเสียบเข้าตาข่ายอย่างแม่นยำและสวยงาม เยลโล่ซับมารีนหวิดนำอีกนาทีที่ 65 บิเซนเต้ อิบอร์ร่า ไหลบอลทะลุช่องจากกลางสนามไปที่ เคราร์ด โมเรโน่ หลุดเข้าไปกระดกบอลข้ามหัว โธมัส วาคลิก ผู้รักษาประตูทีมเยือนกำลังจะเข้าประตูแต่ว่า จูลส์ กูงเด้ มาเคลียร์ก่อนข้ามเส้น ทว่าเชิ้ตดำเป่าเป็นลูกล้ำหน้าของ เคราร์ด โมเรโน่ ไปก่อนแล้ว

เปิดเคล็ดลับความคิดกับพรสวรรค์ลูกหนัง ลิโอเนล เมสซี่


ลิโอเนล เมสซี่ ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่เก่งที่สุดตลอดกาล


หลังจากทำผลงานได้อย่างสุดยอดให้กับ บาร์เซโลน่า โดยความยิ่งใหญ่ของเขาต้องขอบคุณพรสวรรค์ที่พระเจ้าประทานมาให้ และความทุ่มเทในการฟิตร่างกายจนสามารถยืนระยะการเล่นฟุตบอลอาชีพได้ยาวนาน ก่อนหน้านี้ เมสซี่ ได้ชื่อว่าเป็นคนกินดะไม่สนโภชนาการไม่ว่าจะเป็นพวกน้ำอัดลม, พิซซ่า และช็อกโกแลต ทั้งหมดนี้เป็นอาหารโปรดของเจ้าตัวในช่วงวัยรุ่น อย่างไรก็ตาม สตาร์ลูกหนังชาวอาร์เจนไตน์พยายามทำงานอย่างหนักจนประสบความสำเร็จในการรักษาสมดุลที่เพอร์เฟกต์ระหว่างการไดเอท กับการออกกำลังกาย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ต้องกักตัวเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เมสซี่ มักจะออกกำลังกายอย่างหนักที่โรงยิมในบ้านร่วมพร้อมกับภาพของ มูฮัมหมัด อาลี ตำนานแชมป์นักมวยโลกชาวอเมริกัน ขวัญใจของเขา ที่สำคัญเจ้าตัวยังรู้วิธีในการโฟกัสส่วนต่างๆ เพื่อให้ร่างกายมีความแข็งแกร่ง ด้วยรูปร่างที่เล็ก และมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ จึงเป็นเรื่องที่ดีมากๆ เพราะเขามีสรีระที่สมบูรณ์แบบสำหรับการที่จะฉีกหนีไปด้านข้างแบบรวดเร็ว ขณะเดียวกันยังสามารถเคลื่อนไหวอย่างว่องไวผ่านกองหลัง และการใช้สปีดต้นที่รวดเร็วในการเล่นบริเวณพื้นที่แคบๆ สิ่งสำคัญในการฝึกซ้อมของ เมสซี่ ก็มีทั้งการเลี้ยงบอลทะลุทะลวง, การเลี้ยงหลบหลีก, การเร่งความเร็ว, การสปรินท์กระโดดข้ามรั้ว และการสควอท โดยทั้งหมดนี้มีประโยชน์อย่างมากในการสร้างกล้ามเนื้อขา และเป็นการพัฒนาในเรื่องความคล่องแคล่ว เมสซี่ เคยออกมาเผยว่าเขามักจะทำการยืดกล้ามเนื้อนานเป็นชั่วโมงต่อวัน เพื่อที่จะทำให้ร่างกายความมีความยืดหยุ่นซึ่งจะช่วยทำให้การเคลื่อนไหวของเขาสามารถทำได้ทุกๆ ทิศทุกๆ ทาง ยังไม่หมดแค่นั้น สตาร์ลูกหนังเลือดฟ้าขาว silverhoofs.com ยังทำการฝึกซ้อมวิ่งดริลล์สด้วย โยฮัน ครัฟฟ์ ตำนานกุนซือชาวดัตช์ มักจะนำวิธีการฝึกซ้อมเล่นลิงชิงบอล มาใช้กับ บาร์เซโลน่า โดยวิธีการนี้สร้างประสิทธิภาพให้กับทัพ "เจ้าบุญทุ่ม" อย่างมาก และทำให้พวกเขาแข็งแกร่งยากจะมีทีมไหนต้านทาน ที่สำคัญ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็มักจะใช้วิธีนี้ในการซ้อมกับลูกทีมของเขา

silverhoofs.com

โธมัส แฟร์มาเล่น อดีตกองหลัง บาร์ซ่า เปิดเผยเรื่องนี้ว่า 


"เรามักจะทำแบบนี้ตอนช่วงเริ่มต้นฝึกซ้อม มันไม่ใช่แค่การวอร์มอัพเท่านั้น แต่ยังเป็นการซ้อมกับตัวเอง คุณต้องพยายามครองบอล และทำให้ทุกๆ คนที่อยู่ตรงกลางโดนกดดัน อาร์เซน่อลก็เคยใช้วิธีนี้ แต่มีไม่กี่สโมสรที่จะทำได้เหมือนที่เราทำที่นี่ มันเป็นวัฒนธรรม แม้ว่าเราต้องมีเกมลงแข่งในช่วงเย็น เราก็ต้องมาที่นี่ตั้งแต่เช้า และซ้อมเล่นลิงชิงบอลกัน" การฝึกซ้อมหนักในโรงยิมมีส่วนสำคัญอย่างมากในการทำให้นักฟุตบอลหลายๆ คนประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่แสดงให้เห็นกันมาแล้ว แต่สำหรับ เมสซี่ ดูเหมือนเขาจะทำเรื่องที่ตรงข้ามกับ "ซีอาร์ 7" เพราะตลอดทั้งชีวิตของเจ้าตัวแทบจะไม่เข้าโรงยิมด้วยซ้ำ แต่สิ่งนี้กลับสร้างประโยชน์ให้กับเขาเยอะมาก

เรื่องนี้ คาร์ลอส เตเวซ หัวหอกเพื่อนร่วมชาติยืนยันว่าไม่เคยเห็น เมสซี่ เข้าโรงยิมในช่วงระหว่างเก็บตัวทีมชาติอาร์เจนตินา "ลิโอเนล เมสซี่ ผมไม่เคยเจอเขาในยิม ผมไม่เคยเห็นเขาซ้อมจับบอล หรือ ออกกำลังกายในส่วนต่างๆ ทุกอย่างในตัวเขาล้วนมาจากธรรมชาติ แต่เขาซ้อมยิงจุดโทษนะ ตอนแรกเขาไม่เคยซ้อม แต่ตอนนี้เขาซ้อมยิงจากทุกมุมประตู" เช่นเดียวกัน เดโก้ อดีตเพื่อนร่วมสังกัด บาร์ซ่า ที่พรรณาถึง เมสซี่ ว่า "เขาดูแลตัวเองเหมือนกับนักกีฬาปกติทั่วไป และทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ" ขณะที่ อิวาน ราคิติช มิดฟิลด์ตัวเก่ง "เจ้าบุญทุ่ม" มองว่าสภาพร่างกายของ เมสซี่ นั้นดูฟิตสมบูรณ์มาก แม้ไม่ค่อยจะได้เห็นสตาร์ชาวอาร์เจนไตน์เข้าโรงยิมก็ตาม "ผมไม่รู้เหมือนกันว่าผมเห็นเขาในยิมบ่อยหรือเปล่า แต่เขาเตรียมพร้อมและก็ดูแลตัวเองอยู่เสมอ คุณสังเกตได้จากการซ้อม เขาฟิตเต็มร้อย” นอกจากนี้อดีตเพื่อนร่วมทีมหลายๆ คนที่เคยร่วมงานกับ เมสซี่ ยอมรับว่ารู้สึกทึ่งกับการเคลื่อนไหวของ สตาร์ดังชาวอาร์เจนไตน์ อย่างมากในช่วงที่ฝึกซ้อม โดยเรื่องนี้ ลูกัส ดีญ ที่ปัจจุบันเล่นให้ เอฟเวอร์ตัน เปิดใจเกี่ยวกับความสุดยอดของ เมสซี่ ว่า "ตอนที่คุณต้องลงซ้อมกับนักเตะที่เก่งที่สุดในโลก คุณได้เรียนรู้อะไรเยอะมากเพราะคุณต้องสู้กับคนที่เก่งที่สุด" "คุณต้องเคลื่อนที่ให้เร็ว ทำทุกอย่างให้ไว และดีที่สุด คุณห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะถ้าคุณทำพลาดก็มีสิทธิ์เสียประตูแม้ว่าจะเพียงแค่เป็นช่วงที่ฝึกซ้อมก็ตาม เขามาจากดาวอื่น เขาเห็นทุกอย่างก่อนคนอื่นๆ เขาทำทุกอย่างได้รวดเร็วว่องไว เขาตัดสินใจได้ดีเยี่ยมทุกครั้ง เขาสุดยอดมากๆ" ดีญ ระบุ ส่วน อันเดร โกเมซ แข้งเอฟเวอร์ตัน ที่เคยอยู่กับ บาร์เซโลน่า กล่าวเสริมว่า "ตอนฝึกซ้อมมันแสดงให้เห็นทุกอย่าง เพราะทุกๆ วันเขามักจะมีอะไรใหม่ๆ อยู่เสมอ คุณคิดว่าคุณคุ้นเคยกับเรื่องนี้ แต่พออีกวันเมื่อคุณเข้าไปในห้องแต่งตัวก็ต้องประหลาดใจกับสิ่งที่เขาได้ทำไป" ปัจจุบัน เมสซี่ อายุ 32 ปีแล้ว เขาต้องดูแลร่างกายมากกว่าเดิมโดยเฉพาะในเรื่องของอาหารการกิน สิ่งหนึ่งที่เจ้าตัวชื่นชอบมากๆ นั่นก็คือ "ชามาเต้" ซึ่งเป็นชาที่ได้รับความนิยมอย่างมากของบรรดาพ่อค้าแข้งอาชีพ เนื่องจากเป็นเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนสูงมีประโยชน์อย่างยิ่งในการลดน้ำหนัก และมีสารต้านอนุมูลอิสระ รวมทั้งมีวิตามิน บี และซี นอกจากนี้ ยอดแข้งเจ้าของบัลลงดอร์ 6 สมัย ยังตัดสินใจเลิกกินพิซซ่าของโปรด รวมทั้งพวกเนื้อย่างบาร์บีคิวต่างๆ และอาหารยอดฮิตในอาร์เจนตินาอย่าง เมนูมิลาเนเซ่ (แฮมย่างวางอยู่บนเนื้อทอด ราดด้วยชีสกับมะเขือเทศอบ) ก็แทบจะไม่ได้กิน นับตั้งแต่ที่เขาทำงานร่วมกับ กุยเลียโน่ โปเซอร์ นักโภชนาการชาวอิตาเลียน

ขณะเดียวกันพวกเครื่องดื่มแอกอฮอล เมสซี่ก็ ไม่ค่อยแตะ อย่างไรก็ตามอาหารประเภทปิ้งย่างที่เขาสามารถกินได้ก็คือเนื้อปลาย่างที่มีโอเมกา-3 ซึ่งเป็นกรดไขมันที่มีส่วนสำคัญสำหรับการไดเอท นอกจากนี้เขายังมีการใช้ยารักษาใจจากดอกไม้ ในสูตรของบาค เพื่อช่วยลดความวิตกกังวล พร้อมทั้งยังหันมากินอาหารพวกธัญพืช, ผลไม้สด และผัก รวมทั้งน้ำมันมะกอก ทั้งหมดนี้คือเคล็ดลับสำคัญที่ทำให้ เมสซี่ สามารถยืนระยะความยอดเยี่ยมของเขามาได้จนทุกวันนี้ แม้ว่าเจ้าตัวจะมีแนวทางการรักษาร่างกายที่แตกต่างจาก โรนัลโด้ แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันก็คือการกินอาหารที่เหมาะสมถูกหลักโภชนาการ

แมนยูวืดเด็ก 16,ยูเวนตุสเล็งสตาร์วูล์ฟส์!อัพเดตข่าวเด่นตลาดนักเตะลีกยุโรป


ข่าวคราวตลาดซื้อ-ขายนักเตะช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา อาจไม่มีอะไรฮือฮามาก 


แต่ก็มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจเกี่ยวกับแข้งเป้าหมายของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่าง จู้ด เบลลิงแฮม รวมถึงการพยายามคว้าตัว คาลิดู คูลิบาลี่ ยอดปราการหลัง นาโปลี ของ ลิเวอร์พูล ส่วนจะเป็นอย่างไรนั้น มาหาคำตอบจากข้างล่างนี้กันได้เลย จู้ด เบลลิงแฮม กองกลางดาวรุ่งวัย 16 ปี ของ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ หักอก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เชลซี โดยเตรียมปิดดีลโยกซบ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่ราคา 20 ล้านปอนด์ (ประมาณ 780 ล้านบาท) (ESPN)

โธมัส เมอนิเย่ร์ แบ็กขวาทีมชาติเบลเยียม ตกลงย้ายซบ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ด้วยสัญญา 4 ปี เรียบร้อย โดยเจ้าตัวจะโยกร่วมก๊วน "เสือเหลือง" ทันทีที่หมดสัญญากับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง หลังสิ้นเดือนนี้ (Bild) อาร์เซน่อล กำลังพิจารณาคว้าตัว โจ ฮาร์ท นายทวารอดีตทีมชาติอังกฤษ มาร่วมทัพ หลังจากที่โกลมือหนึ่งอย่าง แบร์นด์ เลโน่ เจ็บหนักที่หัวเข่าขวา จนอาจจะต้องพักแข้งยาว โดย ฮาร์ท กำลังจะหมดสัญญากับ เบิร์นลี่ย์ หลังสิ้นเดือนนี้ (Express) ยูเวนตุส พร้อมออกล่าตัว ราอูล ฮิเมเนซ หัวหอกร่างใหญ่ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส มาเสริมแนวรุก แต่ "หมาป่า" ตั้งค่าหัว ดาวยิงทีมชาติเม็กซิโกวัย 29 ปี ไว้สูงถึง 60 ล้านยูโร (ประมาณ 2,100 ล้านบาท) (AS) "ม้าลาย" ยินดีใช้ ดานิเอเล่ รูกานี่ และ เฟเดริโก้ แบร์นาร์เดสคี่ สองแข้งทีมชาติอิตาลี เป็นส่วนหนึ่งในข้อเสนอขอซื้อตัว ราอูล ฮิเมเนซ จาก วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส (Tuttosport) ยูเวนตุส กับ บาร์เซโลน่า ได้บรรลุข้อตกลงแลกตัวนักเตะระหว่าง มิราเล็ม ปานิช กองกลางจอมปั่นฟรีคิก กับ อาร์ตูร์ เมเล่ มิดฟิลด์ชาวบราซิเลียนน เป็นที่เรียบร้อย (La Repubblica) เชลซี เล็ง เลย์แว็ง กูร์กซาว่า ฟูลแบ็ก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เป็นทางเลือกสำรอง หากพลาดได้ตัวเป้าหมายหลักอย่าง เบน ชิลเวลล์ แบ็กซ้าย เลสเตอร์ ซิตี้ (Express)

sharkmaine.com

บาเยิร์น มิวนิค เตรียมทาบซื้อ ลีรอย ซาเน่ ปีกความเร็วสูงของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อีกรอบ 


ที่วงเงิน 36 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,260 ล้านบาท) หลังจากที่ข้อเสนอ 30 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,170 ล้านบาท) ถูก "เรือใบสีฟ้า" ปัดทิ้งไปเรียบร้อย (Evening Standard) บาร์เซโลน่า ลดค่าตัว ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ กองกลางตัวรุกชาวบราซิเลียน (ปัจจุบันอยู่กับ บาเยิร์น มิวนิค แบบสัญญายืมตัว) ลงอย่างต่อเนื่องและล่าสุดพร้อมพิจารณาขาย "คูตี้" ที่ราคา 70 ล้านยูโร (ประมาณ 2,450 ล้านบาท) (Diario Sport)

นาโปลี ปฏิเสธข้อเสนอเงินจำนวน 58 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,262 ล้านบาท) ที่ ลิเวอร์พูล ยื่้นมาขอซื้อ คาลิดู คูลิบาลี่ เซนเตอร์แบ็กจอมแกร่งทีมชาติเซเนกัล เรียบร้อย โดย "อัซซูร์ร่า" ต้องการขายที่ราคา 90 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,510 ล้านบาท) เท่านั้น (Corriere Dello Sport) อาแอส โรม่า เล็งที่จะคว้าตัว ยาน แฟร์ต็องเก้น ปราการหลังทีมชาติเบลเยียม ที่กำลังจะหมดสัญญากับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ส หลังจบฤดูกาลนี้ มาร่วมทีมแบบฟรีๆ โดยได้ยื่นข้อเสนอสัญญา 2 ปี ให้นักเตะพิจารณาเรียบร้อย ( Il Messaggero) เฟเนร์บาห์เช่ ตั้งเป้าที่จะคว้าตัว เมซุต โอซิล sharkmaine.com เพลย์เมกเกอร์ดาวดังของ อาร์เซน่อล มาร่วมทีมให้ได้ โดยวางแผนตั้งแคมเปญระดมทุนจากแฟนบอล (Fotospor) ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลงสัญญาส่วนตัวกับ ลูก้าส์ แอร์กน็องเดส กองหลังชาวฝรั่งเศสของ บาเยิร์น มิวนิค เต็มที (Foot Mercato)

นีซ จ่อปิดดีลคว้าตัว มอร์กกาน ชไนเดอร์ลิน กองกลางเฟร้นช์แมนของ เอฟเวอร์ตัน เต็มที หลังจากที่ตัวนักเตะผ่านการตรวจร่างกายเรียบร้อย (Sky Sports) ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ มีความสนใจที่จะคว้าตัว คิม มิน-แจ เซนเตอร์แบ็กทีมชาติเกาหลีใต้ของ ปักกิ่ง กั๋วอัน มาเสริมแนวรับ โดยก่อนหน้านี้ เอฟเวอร์ตัน ก็มีข่าวอยากได้ตัวเช่นกัน (HITC)

โด้ซัดโทษ-ดีบาล่างามหยด! ยูเวนตุสคัมแบ็คทุบโบโลญญ่าหนีลาซิโอ4แต้ม


เมาริซิโอ ซาร์รี่ นายใหญ่ "ม้าลาย" พาลูกทีมเรียกความมั่นใจสำเร็จหลังอกหักชวดแชมป์โคปปา อิตาเลีย 


โดยเกมนี้ได้ โรนัลโด้-ดีบาล่า ซัดคนละตุงพาทีมบุกทุบ โบโลญญ่า เก็บ 3 แต้มสำคัญมีเพิ่มเป็น 66 คะแนนยึดจ่าฝูงหนี ลาซิโอ 4 แต้มแต่แข่งมากกว่า 1 นัด ในศึกฟุตบอลกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี คืนวันจันทร์ที่ผ่านมา ซินิซ่า มิไฮโลวิช นายใหญ่ โบโลญญ่า ประสบปัญหาพอสมควรเมื่อ มัตเตีย บานี่, เจอร์ดี้ โชเต็น และ เฟเดริโก้ ซานตานเดร์ พร้อมใจกันถูกพักแข้ง อีกทั้ง อันเดรียส สคอฟ โอลเซ่น ก็เจ็บ ส่วนฟอร์มล่าสุดไร้ชัยมา 3 นัดติดรั้งอันดับ 10 ของตาราง
     
ด้าน เมาริซิโอ ซาร์รี่ กุนซือ ยูเวนตุส เพิ่งชวดแชมป์โคปปา อิตาเลีย หลังพ่าย นาโปลี ในนัดชิงชนะเลิศ แถมต้องเสีย อเล็กซ์ ซานโดร กับ ซามี่ เคดิร่า ที่เดี้ยงด้วย ส่วน จอร์โจ้ คิเอลลินี่ และ เมรีห์ เดมิราล ก็ยังไม่สมบูรณ์ โดยทัพ "ม้าลาย" ยึดจ่าฝูงนำ ลาซิโอ อยู่เพียงแต้มเดียว เริ่มเกมได้ 7 นาทีเป็น ยูเวนตุส ทักทายก่อนจากจังหวะลุยของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ พาบอลตัดเข้าในก่อนแต่งหาจังหวะตะบันด้วยขวาบอลตกพื้นไปติดเซฟ ลูคัสซ์ สโครุปสกี้ ทุบออกมาได้ แต่แล้วนาทีที่ 23 "ม้าลาย" มาได้ประตูออกนำจากจังหวะลูกเตะมุมทางฝั่งซ้ายและเป็น สเตฟาโน่ เดนส์วิล ไปเสียเหลี่ยมดึง มาต์ไตส์ เดอ ลิกท์ ร่วงลงไปผู้ตัดสินขอเช็ค "วีเออาร์" ก่อนเป่าให้เป็นลูกจุดโทษ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สังหารเข้าไปไม่พลาด ก่อนหมดครึ่งแรก 10 นาที ยูเวนตุส มาบวกสกอร์เพิ่มจากการต่อบอลสุดสวยของ เฟเดรีโก้ แบร์นาร์เดสคี่ ไขว้บอลจ่ายให้ เปาโล ดีบาล่า หมุนตัวปั่นโค้งด้วยซ้ายเสียบเสางามหยด

royalstoneind.com

หมดครึ่งเวลาแรก โบโลญญ่า 0 ยูเวนตุส 2

นาทีต่อมาโอกาสลุ้นครั้งแรกของ  โบโลญญ่า เป็นลูกยิงไกลนอกกรอบของ นิโกล่า ซานโซเน่ ลองซัดด้วยขวาบอลตกพื้นผ่านหน้าปากประตูออกหลังไป นาทีที่ 40 ทีมเยือน พลาดโอกาสทองจากความสุดยอดของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ โชว์ลีลาหลอกแนวรับ โบโลญญ่า ก่อนเปิดข้ามมาให้ เปาโล ดีบาล่า  สอดมาฮาร์ฟวอลเล่ย์ด้วยขวาออกหลังเหลือเชื่อ

เปิดฉากครึ่งหลังได้ 5 นาที คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เกือบบวกประตูที่สองของเจ้าตัวหลังหลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปยกบอลหลบ ลูคัสซ์ สโครุปสกี้ แต่โชคไม่ดีบอลไม่ตรงกรอบ ต่อมาอีกนาทีเดียวคราวนี้เป็น เฟเดรีโก้ แบร์นาร์เดสคี่ หาจังหวะอัดเต็มข้อด้วยซ้ายบอลติดปลายมือ ลูคัสซ์ สโครุปสกี้ ไปชนเสาเด้งมาเข้าทาง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ตามซ้ำก็ยิงไปติดเซฟ สโครุปสกี้ นาทีที่ 60 โบโลญญ่า หวิดตีไข่แตกบ้างจากลูกยิงไกลของ ริคคาร์โด้ ออร์โซลินี่ ลาหาช่องปั่นบอลโค้งด้วยซ้ายเฉี่ยวสามเหลี่ยมหลุดออกหลังไปนิดเดียว royalstoneind.com 72 นาทีผ่านยังเป็น เจ้าถิ่น ที่ทำได้ดีกว่าเกือบหนีห่างออกไปจากลูกยิงหน้ากรอบเขตโทษของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ บอลผ่านมือ ลูคัสซ์ สโครุปสกี้ หลุดเสาแรกออกไปไม่ไกล ท้ายเกม ยูเวนตุส พลาดประตูปิดกล่องเป็นบอลยาวจากแนวลึกให้ ดั๊กลาส คอสต้า หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าเขตโทษก่อนจ่ายให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ส่งบอลไปซุกก้นตาข่ายแต่น่าเสียดายล้ำหน้าไปก่อน
    
ช่วงทดเจ็บ ทีมเยือน ต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คนหลัง ดานิโล่ ที่ลงสนามมาเป็นตัวสำรองโดนใบเหลืองที่สองไล่ออกจากสนามไป จบเกม โบโลญญ่า 0 ยูเวนตุส 2 "ม้าลาย" เก็บเพิ่มเป็น 66 คะแนนยึดจ่าฝูงต่อหนี ลาซิโอ 4 แต้มแต่แข่งมากกว่า 1 นัด

มาห์เรซ-โฟเด้นเบิ้ล! แมนซิตี้โคตรดุถล่มเบิร์นลี่ย์ขาดลอย ยึดรองฝูงแน่น


เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เกมนี้แม้จะโรเตชั่นเปลี่ยนถึง 8 ตำแหน่งแต่ฟอร์มของทีมยังร้อนแรง


เมื่อเปิดรังไล่ถล่ม เบิร์นลี่ย์ แบบไม่ไว้หน้า 5-0 ริยาด มาห์เรซ ควงฟิล โฟเด้น ยิงคนละสองประตู พร้อมพาทีมซิวสามแต้มนั่งรองจ่าฝูงต่อไป โดยเกมหน้าจะทำบิ๊กแมตช์บุกไปเยือน เชลซี กลางวีกนี้ ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัด 30 เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา

"เรือใบสีฟ้า" รองจ่าฝูง รับการมาเยือนของ เบิร์นลี่ย์ ทีมอันดับ 11 โดย แมนฯซิตี้ ได้รีสตาร์ทกลับมาเล่นในเกมตกค้างไปก่อนเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังเปิดรังถล่ม อาร์เซน่อล 3-0 โดยเกมนี้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เปลี่ยนแข้งจากชุดถล่มปืนใหญ่ถึง 8 ราย สามแนวรุกใช้ ริยาด มาห์เรซ, เซร์คิโอ อเกวโร่ ''กุน'' และแบร์นาร์โด้ ซิลวา ทางด้าน เบิร์นลี่ย์ ของ ฌอน ไดซ์ วาง มาเตจ วีดร้า และ เจย์ โรดริเกซ เป็นความหวังไล่ล่าประตู ครึ่งแรก riarestaurantchicago.com ในช่วง 15 นาทีแรก กลายเป็น "เรือใบสีฟ้า" ที่ครองเกมรุกอยู่ตลอดเวลา แต่ยังหาโอกาสเข้าไปยิงไม่ได้เลย จากจังหวะที่ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ไหลเข้ากลางให้  ชูเอา คานเซโล่ ตั้งป้อมยิงนอกกรอบบอลพุ่งเหินคานออกไป อีก 2 นาทีต่อมา เจ้าบ้านเกือบได้ชิงขึ้นนำอีก

riarestaurantchicago.com

ต้องรอถึง นาที 16 เป็นโอกาสส่องหนแรกของ แมนฯซิตี้ 

ดาบิด ซิลบา ไหลทะลุเข้าไปให้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา หวดด้วยขวาหลุดเสาออกไป นาที 22 เจ้าบ้านมาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะเล่นสั้นที่มุมธง แบร์นาร์โด ซิลวา จ่ายเลียดเข้ากลางมาให้ ฟิล โฟเด้น ตะบันด้วยซ้ายนอกกรอบบอลพุ่งผ่านมือ นิค โป๊ป เบียดเสาแรกเข้าไป นาที 35 กุน อเกวโร่ ได้โอกาสบ้างหลัง แบร์นาร์โด ซิลวา ไหลบอลเข้ากลางมาให้ แต่จังหวะยิงช้าไปบอลไปติดบล็อคแนวรับเจ้าถิ่น แนวรับของเบิร์นลี่ย์ช่วยกันได้ดีทำให้ ลูกทีมของ เป๊ป เจาะเข้าไปลำบาก

นาที 40  โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ลากตัดเข้ากลางแล้วกดด้วยซ้ายนอกกรอบบอลพุ่งแรงแต่ก็ยังไปเข้าซอง นิค โป๊ป นาที 43 "เรือใบสีฟ้า" มาพังประตูนำห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่ แฟร์นันดินโญ่ จ่ายบอลจากแดนหลังขวางยาวมาให้ ริยาด มาห์เรซ จับบอลลงอย่างนิ่มนวลก่อนกระชากเลี้ยงจี้เข้ากรอบแล้วล็อคด้วยซ้ายเข้าไปซัดด้วยขวาพุ่งเสียบเสาไกลอย่างเฉียบขาด ช่วงทดเจ็บ นาที 45+3 ซิตี้ มาได้ลูกที่จุดโทษ หลัง ฟิล โฟเด้น จ่ายยัดมาในกรอบ กุน อเกวโร่ ถึงบอลก่อน เบน มี กลายเป็นโดยจิ้มที่ข้อเท้า ผู้ตัดสินได้เช็กจาก วีเออาร์ ก่อนจะเป่ายืนยันให้จุดโทษ และเป็นริยาด มาห์เรซ ยิงเข้าไปไม่พลาด เป็นประตูที่สองของเจ้าตัวในเกมนี้ ก่อนพา แมนฯซิตี้ จบครึ่งแรกด้วยสกอร์นำ เบิร์นลี่ย์ 3-0 ครึ่งหลัง นาที 51 เจ้าบ้านมาได้ประตูนำโด่ง 4-0 บอลไหลทะลุขึ้นมาทางขวาให้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา หลุดเข้าไปครอสบอลมาในกรอบ 6 หลา และเป็น ดาบิด ซิลวา ที่พุ่งเข้าชาร์ทเข้าไปไม่เหลือ นาที 63 ทัพเรือใบมาได้ประตูที่ห้า จากจังหวะตัดบอลได้แดนกลาง เควิน เดอ บรอยน์ ควบพาบอลขึ้นมาก่อนออกขวาให้ แบร์นาร์โด้ ปาดเข้ากลางถึง กาเบรียล เชซุส ที่ยิงไม่เต็มใบกลายเป็นส่งไปเสาสองให้ ฟิล โฟเด้น วิ่งมายิงยัดด้วยซ้ายเข้าไป แมนฯซิตี้ นำห่าง 5-0

นาที 79 โรดรี้ รับบอลจาก ซิลบา ก่อนลากเข้ามาตะบันนอกกรอบบอลพุ่งหลุดกรอบ อีก 5 นาทีต่อมา ลีรอย ซาเน่ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมาได้ลองซัดฟรีคิกกว่า 23 หลา แต่บอลยังไม่ผ่านกำแพงทีมเยือน ช่วงที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติม จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไล่ถล่มยำใหญ่ใส่ เบิร์นลี่ย์ ขาดลอย 5-0 เก็บสามคะแนนนั่งรองจ่าฝูงต่อไป มีเพิ่ม 63 แต้ม ตามหลังจ่าฝูง ลิเวอร์พูล 20 แต้ม ส่วนเบิร์นลี่ย์ รั้งอันดับ 11 มี 39 คะแนน

เบิร์นลี่ย์แถลงประณามกลุ่มคนทำเรื่องสุดเลวร้าย

เบิร์นลี่ย์ ออกโรง

ประณามกลุ่มคนที่จ้างเครื่องบินพร้อมกับติดป้ายในเชิงเย้ยหยันโครงการ "แบล็ค ไลฟ์ส แมทเทอร์" (Black Lives Matter ) ในแมตช์ที่พวกเขาออกไปถูก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถล่มยับไม่นับญาติเกมลีกเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เบิร์นลี่ย์ สโมสรในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกโรงประณามการกระทำของกลุ่มคนบางกลุ่มที่จ้างเครื่องบินติดแผ่นป้ายข้อความว่า 

"ไวท์ ไลฟ์ส แมทเทอร์ เบิร์นลี่ย์" (White Lives Matter Burnley) หรือ "ชีวิตคนขาวก็สำคัญ เบิร์นลี่ย์" บินอยู่เหนือสนามเอติฮัด สเตเดี้ยม ในเกมลีก เมื่อวันจันทร์ที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา ช่วงที่ผ่านมาวงการฟุตบอลมีการแสดงจุดยืนด้วยการต่อต้านการเหยียดสีผิวในโครงการ "แบล็ค ไลฟ์ส แมทเทอร์" (Black Lives Matter ) หรือ "ชีวิตคนผิวดำก็สำคัญ" โดยให้ 20 สโมสรใช้ข้อความดังกล่าวแปะติดเอาไว้ด้านหลังเสื้อแข่งแทนชื่อนักเตะ และยังมีการคุกเข่าก่อนที่จะเริ่มฟาดแข้ง

quinnbrettler.com

เบิร์นลี่ย์ บุกแพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-5 

อย่างไรก็ตามในแมตช์ที่ เบิร์นลี่ย์ บุกแพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-5 ได้เกิดเรื่องที่อาจจะสร้างกระแสความขัดแย้งอย่างรุนแรงเมื่อมีกลุ่มคนว่าจ้างเครื่องบินพร้อมติดป้ายที่มีข้อความไม่เหมาะสมที่ดูเหมือนเป็นการเย้ยหยันการรณรงค์ต่อต้านการเหยียดผิว 
    
สำหรับเรื่องนี้ "เดอะ คลาเร็ตส์" ต้องรีบออกมายืนยันว่าการกระทำดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับสโมสร และพร้อมประณามผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนที่มีส่วนกับการกระทำครั้งนี้ "สโมสรเบิร์นลี่ย์ ฟุตบอล คลับ ขอประณามอย่างรุนแรงต่อผู้ที่มีส่วนในเครื่องบินและป้ายข้อความโจมตีที่บินอยู่เหนือสนามเอติฮัด สเตเดี้ยม เมื่อช่วงเย็นวันจันทร์" quinnbrettler.com "เราขอยืนยันอย่างชัดเจนว่าไม่ต้อนรับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ที่สนามเทิร์ฟ มัวร์ สิ่งนี้ไม่ใช่ตัวแทนในสิ่งที่สโมสรเบิร์นลี่ย์ ฟุตบอล คลับ ยืนหยัด และเราจะพยายามทำงานอย่างเต็มที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่เพื่อควานหาบุคคลที่มีส่วนรับผิดชอบ และจะสั่งแบนตลอดชีวิต" "สโมสรมีความภูมิใจในการทำงานร่วมกับคนทุกเพศ, ทุกศาสนา และความเชื่อจนได้รับรางวัลการวางแผนเพื่อชุมชน และยืนหยัดในการต่อต้านการเหยียดผิว เราให้การสนับสนุนโครงการแบล็ค ไลฟ์ส แมทเทอร์ ของพรีเมียร์ลีก ตั้งแต่เริ่มต้น และตลอดช่วงที่พรีเมียร์ลีกนับตั้งแต่มีโครงการโปเจกต์ รีสตาร์ท"

"นักเตะของเราและทีมสตาฟฟ์ทุกคนพร้อมที่จะคุกเข่าก่อนที่จะเริ่มแข่งพบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เราขอโทษจากใจต่อ พรีเมียร์ลีก, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และทุกๆ ฝ่ายที่ช่วยในการรณรงค์โครงการแบล็ค ไลฟ์ส แมทเทอร์" แถลงการณ์ฉบับเดิม ระบุ

เอซี มิลาน รีสตาร์ทสวยบุกถล่มเลชเช่ กัลโช่ เซเรีย อา

"ปีศาจแดง-ดำ" บุกไปคว้าชัยเหนือ เลชเช่ ทีมโซนตกชั้นได้แบบไม่ยาก 4-1 เก็บสามแต้มสำคัญพร้อมขึ้นไปรั้งอันดับ 7 มีแต้มทาบ นาโปลี 39 คะแนน แต่ลูกได้เสียเป็นรองและนาโปลีแข่งน้อยกว่า ในศึกกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา


รีสตาร์ท กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ประจำวีกที่ 27 เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าบ้าน เลชเช่ อันดับ 18 ของตารางรับการมาเยือนของ เอซี มิลาน ทีมอันดับ 9 โดยเจ้าถิ่นเกมรุกความหวังไว้ที่ จานลูก้า ลาปาดูล่า และฟิลิปโป้ ฟัลโก้ ขณะที่ "ปีศาจแดงดำ" ไม่มี ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ที่ยังบาดเจ็บ เกมรุกใช้ ฮาคาน ชาลาโนกลู ปั้นเกมร่วมกับ ซามูเอล กาสตีเยโฆ และจาโคโม่ โบนาเวนตูร่า โดยทิ้ง อันเต เรบิช เป็นหน้าเป้า
    
เกมครึ่งแรก นาที 15 มิลาน เกือบได้ประตูขึ้นนำไปก่อน หลัง ฮาคาน ชาลาโนกลู เปิดคอนเนอร์มาให้ เตโอ แอร์กน็องเดซ  ขึ้นโขกแต่บอลโดนไม่เต็มหัวกลายเป็นตั้งให้ โบนาเวนตูร่า วอลเลย์ด้วยขวาเสาแรก แต่บอลยังไปติดเซฟ กาเบรียล นายด่านของเลชเช่ อีก 2 นาทีถัดมา โบนาเวนตูร่า ไหลบอลให้ ซามูเอล กาสตีเยโฆ ไปทางเสาไกลอัดด้วยขวาเน้นๆ แต่บอลก็ยังไม่พ้นมือ กาเบรียล ที่พุ่งปัดออกหลังได้อีก เกมรุกมิลานบุกมาอย่างต่อเนื่อง นาที 20 อิสมาแอล เบนนาแซร์ ไหลต่อให้ ฟร้องค์ เกสซีเย่ กดด้วยขวานอกกรอบ บอลพุ่งแรงจน กาเบรียล ต้องออกแรงเซฟอีก นาที 25 เป็นโอกาสของ เตโอ แอร์กน็องเดซ หลังรับลูกจ่ายของ เบนนาแซร์ หลุดเข้าไปซัดเสาแรกแต่ กาเบรียล ยังโชว์ฟอร์มเป็นพระเอกล้มตัวเซฟได้อีก

puntmagic.com

จบครึ่งแรก เลชเช่ ตามหลัง เอซี มิลาน 0-1

จนแล้วจนรอด เอซี มิลาน มาพังประตูขึ้นนำ 1-0 จนได้ในนาทีที่ 26 บอลขึ้นทางขวา ฮาคาน ชาลาโนกลู ครอสมาเสาแรกถึง ซามูเอล กาสตีเยโฆ ตั้งขาแปด้วยซ้ายเปลี่ยนทางบอลเข้าประตูไป นาที 36 มาร์โก มันโคซู หลุดไปเสาสองหวดเต็มข้อส่งบอลซุกก้นตาข่ายไปแล้ว แต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นจังหวะล้ำหน้า และวีเออาร์ ยืนยันว่าห้องเครื่องเจ้าถิ่นอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าไปก่อน
    
ครึ่งหลัง นาที 51 เจ้าถิ่นหวิดได้ลุ้นตีเสมอ หลัง ริคคาร์โด้ ซาโปนาร่า กระชากเข้ามาในกรอบก่อนปาดเข้ากลางมาให้ คูม่า บาบาการ์ วิ่งมายิงด้วยซ้ายหลุดกรอบออกไปแบบได้เสียว อีก 2 นาทีต่อมา เลชเช่ มาได้ลูกที่จุดโทษ หลัง คูม่า บาบาการ์ โดนมัตเตโอ แกบเบียกระแทกล้มลงผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันที และเป็น มาร์โก มันโคซู ยิงเข้าไปไม่พลาดให้ เจ้าบ้านไล่ตีเสมอ "ปีศาจแดงดำ" 1-1 ทว่า มิลาาน เอาคืนทันควันอีก นาที 55 มาแซงขึ้นนำ 2-1 อีกครั้ง จากจังหวะที่ ฮาคาน ชาลาโนกลู ซัดนอกกรอบด้วยขวาบอลพุ่งไปโดน กาเบรียล เซฟออกมา puntmagic.com แต่ดันมาเข้าทาง จาโคโม่ โบนาเวนตูร่า วิ่งตามซ้ำด้วยขวาเข้าไปไม่เหลือ เท่านั้นไม่พอ นาที 57 สกอร์ของทีมเยือนหนีห่างเป็น 3-1 จากจังหวะสวนกลับเร็วบอลมาเข้าเท้า ฮาคาน ชาลาโนกลู แทงบอลทะลุช่องขึ้นหน้าให้ อันเต เรบิช สปีดจากกลางสนามเข้าไปควบบอลก่อนหลุดเดี่ยวเข้าไปซัดผ่านมือ กาเบรียล ตุงตาข่าย

นาที 72 มิลาน มาได้ประตูหนีห่าง 4-1 บอลจาก อันเดรีย คอนติ ครอสยาวเข้าไปในกรอบให้ ราฟาเอล เลเอา ตัวสำรองโขกเข้าไปไม่เหลือ จบการแข่งขัน เลชเช่ ต้านไม่ไหวพ่ายคาบ้านให้ เอซี มิลาน 1-4 ส่งผลให้ "ปีศาจแดงดำ" คว้าสามแต้มแซงขึ้นไปรั้งอันดับ 7 มี 39 คะแนนเท่ากับ นาโปลี อันดับ 6 แต่ลูกได้เสียเป็นรองและ มิลาน แข่งมากกว่าหนึ่งนัด ส่วน เลชเช่ รั้งอันดับ 18 ต้องหนีตกชั้นต่อไป

แก้วิกฤต! 5แข้งอาร์เซน่อลควรโดนโละทิ้ง ระดมทุนสร้างทีมใหม่

ฤดูกาลนี้ อาร์เซน่อล กำลังมีช่วงเวลาที่ย่ำแย่สุดๆ 

หลังความพ่ายแพ้ต่อ ไบรท์ตัน 1-2 ในศึกพรีเมียร์ลีก นัดล่าสุดทำให้พวกเขาพ่ายสองนัดรวดนับตั้งแต่ที่ลีกกลับมารีสตาร์ทอีกครั้ง พร้อมหล่นมารั้งที่ 10 ของตารางเรียบร้อย และมีแต้มตามพื้นที่ลุยฟุตบอลยุโรป 6 แต้ม จากผลงานดังกล่าวทำให้ มิเกล อาร์เตต้า จำเป็นต้องจัดการปล่อยแข้งส่วนเกินออกไปบางตำแหน่งเพื่อเป็นการระดมทุนซื้อแข้งใหม่มาเสริมทัพ และนี่คือ 5 แข้งที่ อาร์เซน่อล ควรพิจารณาปล่อยตัวออกไปในช่วงซัมเมอร์นี้ 

เมซุต โอซิล อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติเยอรมันเคยตกเป็นข่าวเรื่องการย้ายทีมมาในระยะหนึ่งแล้ว หลังจากฟอร์มดร็อปลงไปอย่างต่อเนื่อง โดยซีซั่นนี้เพิ่งจะทำไปเพียง 1 ประตูกับ 2 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 18 เกมในลีก ด้วยวัย 31 ปี และมีค่าเหนื่อยสูงถึง 350,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ทำให้มีโอกาสสูงที่สโมสรอาจพิจารณาปล่อยตัวนักเตะออกไปหลังจบซีซั่นนี้ แล้วหาแข้งเจนเนอเรชั่นใหม่มาเสริมทัพแทน ซึ่งก็มีโอกาสสูงที่เจ้าตัวอาจตัดสินใจย้ายออกจากทีมหลังไม่ได้ลงเล่นมาสองเกมติดต่อกันแล้ว อย่างไรก็ตามหากมองอีกหนึ่งทางเลือกคือการดันผู้เล่นดาวรุ่งในตำแหน่งนี้ให้มีโอกาสมากขึ้นทั้ง โจ วิลล็อค หรือ เอมิล สมิธ โรว์ อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์ ptolitigationcenter.com หลังจาก อาร์เซน่อล เซ็นสัญญากับกองหน้าเลือดน้ำหอมมาจาก โอลิมปิค ลียง เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2017 ทำให้แฟนๆ "เดอะ กันเนอร์ส" ตื่นเต้นมากกับการมาของเจ้าตัว 

ptolitigationcenter.com

การมาของดาวเตะวัย 29 ปี 

มาช่วยยกระดับแนวรุกของ "ปืนใหญ่" ได้มากยิงได้ถึง 14 ประตูในลีกฤดูกาลแรก กับ 13 ประตูในซีซั่นถัดมา ซึ่งเป็นผลงานที่ไม่เลวเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามในฤดูกาลนี้ผลงานของเขาดูดร็อปลงไป โดยเฉพาะในยุคของกุนซือ มิเกล อาร์เตต้า ที่มักจะออสตาร์ทจากม้านั่งสำรอง และเพิ่งจะทำได้เพียง 3 ประตูรวมทุกรายการเท่านั้น โดยที่กุนซือชาวสแปนิชมักจะชื่นชอบในการใช้ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียร์ กองหน้าดาวรุ่งลงเล่นมากกว่า นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ช่วงซัมเมอร์นี้การขายออกไปดูจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับทั้งสองฝ่าย และสโมสรน่าจะได้ค่าตัวจากดีลนี้พอสมควรเพื่อนำไปสมทบทุนคว้าแข้งรายใหม่ 

สำหรับตำแหน่งกองหน้า อาร์เซน่อล ก็ตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับดาวรุ่งหลายคนโดยเฉพาะ โจนาธาน เดวิด จากเก้นท์ และ อ็อดซง เอดูอาร์ด จาก เซลติก เอนส์ลี่ย์ เมตแลนด์-ไนล์ส แม้ดาวเตะสารพัดประโยชน์จะก้าวขึ้นมาเล่นให้กับทีมชุดใหญ่เป็นฤดูกาลที่ 5 แล้ว แต่เจ้าตัวก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะยึดตำแหน่งตัวจริงได้เลย โดยในฤดูกาลนี้ได้ลงเล่น 15 เกมในลีกเท่านั้น ดาวเตะวัย 22 ปี ดูเหมือนจะไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีมของ อาร์เตต้า โดยกุนซือชาวสแปนิชถึงขนาดเคยต้องจับ โซคราติส ไปยืนประจำการทางแบ็กขวาแทน เอคตอร์ เบเยริน มาแล้วซึ่งไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจหากเจ้าตัวจะถูกปล่อยออกจากทีมหลังจบฤดูกาลนี้ เฮนริค มคิทาร์ยาน มิดฟิลด์ชาวอาร์เมเนียย้ายมาร่วมทัพ "เดอะ กันเนอร์ส" โดยเป็นการสลับขั้วกับ อเล็กซิส ซานเชซ ที่ย้ายไปอยู่ แมนฯ ยูไนเต็ด แทน ในปี 2018 และก็ยังไม่สามารถเรียกฟอร์มออกมาในระยะยาวได้จนต้องเผชิญชะตาเดียวกันกับดาวเตะชาวชิลี ดาวเตะวัย 31 ปี ลงเล่น 38 เกมทุกรายการทำได้ 6 ประตูในฤดูกาล 2018-19 ก่อนจะถูกปล่อยให้ โรม่า ยืมไปใช้งานในช่วงซัมเมอร์ ซึ่งดูเหมือนว่าโอกาสที่จะกลับมาเล่นในอังกฤษอีกครั้งคงจะเป็นเรื่องยากเนื่องจากเจ้าตัวเคยออกมายอมรับว่าเขาไม่เคยมีความสุขกับการเล่นฟุตบอลในลีกผู้ดี ชโคดราน มุสตาฟี่ เชื่อว่านักเตะในตำแหน่งเซ็นเตอร์ที่แฟนๆ อาร์เซน่อล ต้องการให้ย้ายออกไปมากที่สุดคงหนีไม่พ้น ดาวิด ลุยซ์ ที่เพิ่งก่อความผิดพลาดอย่างหนักมีส่วนสำคัญให้ต้นสังกัดแพ้ แมนฯ ซิตี้ ซึ่งสัญญาของเจ้าตัวกำลังจะหมดลงหลังจบฤดูกาลนี้ ซึ่งทำให้เขาน่าจะหมดอนาคตกับทีมแน่นอนแล้ว 

อย่างไรก็ตามในช่วงซัมเมอร์นี้อาจเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการเปลี่ยนแปลงแนวรับอย่างสมบูรณ์ และนั่นอาจหมดเวลาสำหรับดาวเตะวัย 28 ปีแล้วที่จะเปิดโอกาสให้ดาวรุ่งได้เฉิดฉายแบบเต็มๆทั้ง วิลเลียมส์ ซาลิบา แข้งใหม่จาก แซงต์ เอเตียน, ร็อบ โฮลดิ้ง รวมถึง คอนสแตนตินอส มาฟโรปานอส

เฮนเดอร์สัน ต่างกับกลุ่มนี้ ? 4 นายด่านอังกฤษที่อยู่กับ แมนยู ตั้งแต่อะคาเดมี่ในยุค พรีเมียร์ลีก

หนึ่งในประเด็นที่น่าสนใจของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในตอนนี้

คืออนาคตของ ดีน เฮนเดอร์สัน ผู้รักษาประตูชาวอังกฤษที่พวกเขาปล่อยให้ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ยืมตัวไปใช้งาน หลังจากเจ้าตัวโชว์ฟอร์มได้โดดเด่นมากๆ จนถึงขั้นมีบางคนเรียกร้องให้เขามาเป็นมือ 1 คนใหม่ของทีมแทน ดาบิด เด เคอา แล้ว ขณะเดียวกันก็มีข่าวลือว่า เชลซี อยากได้ เฮนเดอร์สัน ไปร่วมทัพจนถึงขนาดพร้อมที่จะประเคนเงินให้ 50 ล้านปอนด์ แฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด หลายคนของที่ประเทศอังกฤษตั้งความคาดหวังเอาไว้สูงมากว่าทีมจะเก็บ เฮนเดอร์สัน เอาไว้ 

เพราะนอกจากเจ้าตัวจะมีฝีมือดีจนดูเหมาะกับการเป็นมือ 1 แล้วนั้น เขายังเป็นคนอังกฤษและเป็นผลผลิตจากอะคาเดมี่ของสโมสรเองอีกต่างหาก ที่จริงในยุคที่ลีกสูงสุดของอังกฤษใช้ชื่อ พรีเมียร์ลีก นั้น นอกจาก เฮนเดอร์สัน แล้วมันก็ยังมีนายด่านชาวอังกฤษหลายคนที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ปลุกปั้นมาในระดับอะคาเดมี่ แต่ก็ไม่มีใครที่ก้าวขึ้นมาเป็นมือ 1 แบบถาวรให้กับทีมได้ วันนี้เราลองย้อนไปดูตัวอย่างกันดีกว่าว่าที่เด่นๆ มันมีใครบ้าง ลุค สตีล (ปัจจุบันอายุ 35 ปี อยู่กับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ แต่ตอนนี้เล่นให้ มิลล์วอลล์ ด้วยสัญญายืมตัว) สตีล ไปเข้าตาแมวมองของ แมนฯ ยูไนเต็ด หลังจากที่เขาได้เป็นตัวจริงให้กับทีมชุดใหญ่ของ ปีเตอร์โบโร่ห์ ยูไนเต็ด จนทำให้ "ปีศาจแดง" คว้าตัวเขามาร่วมทีมด้วยค่าตัว 500,000 ปอนด์ ในปี 2002 โดยที่มีอ็อปชั่นเพิ่มเป็น 2.25 ล้านปอนด์ ถ้าหากเขาลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ครบตามจำนวนหนึ่ง ตอนแรก สตีล ได้ลงเล่นให้ทีมสำรองของ แมนฯ ยูไนเต็ด ก่อนที่จะต้องโดนลดไปเล่นกับทีมรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี เพราะตอนนั้น ริคาร์โด้ โลเปซ กับ รอย แคร์โรลล์ โดนลดลงมาเล่นกับทีมสำรองของ แมนฯ ยูไนเต็ด ถึงกระนั้น สตีล ก็ได้เป็นตัวจริงอย่างต่อเนื่องให้กับทีมรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี รวมถึงเป็นกำลังหลักของชุดที่ได้แชมป์ เอฟเอ ยูธ คัพ ในฤดูกาล 2002–03 อย่างไรก็ตาม สตีล ก็ไม่เคยได้ลงเฝ้าเสาให้ทีมชุดใหญ่ของ มนฯ ยูไนเต็ด แม้แต่นัดเดียว prosource-it.com โดยหลังจากนั้นเขาต้องไปเล่นแบบยืมตัวกับ โคเวนทรี ซิตี้ ก่อนที่จะได้ย้ายแบบถาวรมาอยู่กับ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ในฤดูกาล 2006-07 แต่เขาก็ไมได้เป็นกำลังหลักให้กับ เวสต์บรอมฯ เหมือนกัน หลังจากนั้นเจ้าตัวก็ตระเวนเล่นให้หลายทีม จนมาซบ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ในปี 2018 แต่เจ้าก็ไม่ได้กลายเป็นตัวจริงให้กับทีมจนตอนนี้ต้องมาเล่นกับ มิลล์วอลล์ ด้วยสัญญายืมตัว แต่เขาก็เป็นเพียงอะไหล่ของที่นั่นอยู่ดี

prosource-it.com

นายด่านชาวอังกฤษหลายคนที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ปลุกปั้นมาในระดับอะคาเดมี่

ทอม ฮีตัน (ปัจจุบันอายุ 34 ปี อยู่กับ แอสตัน วิลล่า) ฮีตัน บอกลาอะคาเมี่ของ เร็กซ์แฮม มาอยู่กับศูนย์ฝึกเยาวชนของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในปี 2002 ซึ่งทันทีที่เข้าไปอยู่กับทีมเขาก็ได้เป็นตัวจริงให้กับทีมรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปีของที่นั่น ก่อนที่จะได้ขึ้นมาเล่นให้ทีมสำรองของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเวลาต่อมา โดยที่ช่วงแรกๆ ยังเป็นเพียงตัวสำรองเท่านั้น พอถึงฤดูกาล 2004-05 ฮีตัน ก็ได้กลายเป็นมือ 1 ในทีมสำรองของ แมนฯ ยูไนเต็ด ตอนนั้นหลายคนมองว่าเขามีคุณภาพดีพอที่จะขึ้นมาเป็นตัวจริงให้กับทีมชุดใหญ่ได้ น่าเศร้าที่ความเป็นจริงมันโหดร้าย ฮีตัน ไม่เคยได้เฝ้าเสาในเกมระดับทีมชุดใหญ่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด เลย อย่างดีที่สุดคือการมีชื่อเป็นตัวสำรองในบางนัด

ตลอดช่วงที่ยังมีสัญญาอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ฮีตัน ต้องไปเล่นแบบยืมตัวกับทีมอย่าง สวินดอน ทาวน์, รอยัล อันธ์เวิร์ป, คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้, ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส, รอชเดล และ วีคอมบ์ วันเดอเรอร์ส ก่อนที่จะได้ย้ายแบบถาวรไปอยู่กับ คาร์ดิฟฟ์ ในปี 2010 โดยหลังจากนั้นเขาย้ายไปเฝ้าเสาให้ บริสตอล ซิตี้ ในปี 2012 แล้วมาซบ เบิร์นลี่ย์ ในปี 2013 สุดท้ายแล้ว "เดอะ คลาเร็ตส์" ก็กลายเป็นทีมที่เขาได้ลงเฝ้าเสาในเกมระดับทีมชุดใหญ่เยอะที่สุด หลังจากเล่นให้ทีมไป 200 นัดจากทุกรายการ และเขาก็ได้ติดทีมชาติอังกฤษก็เพราะผลงานกับ เบิร์นลี่ย์ ก่อนที่เมื่อช่วงซัมเมอร์ ปีก่อน จะมาซบ แอสตัน วิลล่า และเขาก็ได้เป็นตัวจริงของทีม ก่อนที่เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมาจะได้รับบาดเจ็บตรงหัวเข่าจนต้องพักยาว เบน อามอส (ปัจจุบันอายุ 30 ปี อยู่กับ ชาร์ลตัน แอธเลติก) หลังจากอยู่ในอะคาเดมี่ของ ครูว์ อเล็กซานดร้า เป็นเวลาราว 7 ปี อามอส ก็ได้มาอยู่กับอะคาเดมี่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในปี 2011 โดยที่ตอนนั้นเขามีอายุเพียง 11 ปีเท่านั้น และแค่ซีซั่นแรกกับทีมเขาก็ได้เป็นตัวจริงให้กับทีมรุ่นอายุไม่เกิน 13 ปีของสโมสร โดยที่ลงเล่นไปทั้งหมด 19 เกม จากทั้งหมด 27 นัด หลังจากนั้น อามอส ก็พัฒนาฝีมือขึ้นมาได้เรื่อยๆ จนได้อยู่ในทีมเยาวชนหลายชุดของ แมนฯ ยูไนเต็ด และถึงขั้นได้ลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในฤดูกาล 2008-09 โดยเป็นเกม ลีก คัพ รอบ 3 นัดที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เอาชนะ มิดเดิ้ลสโบรห์ 3-1 น่าเศร้าที่เขาไม่สามารถต่อยอดจากจุดนั้นได้ แม้ว่าหลังจากนั้นเจ้าตัวจะเคยได้ลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่อีกบางนัด แต่มันก็เป็นเพียงแค่เพราะในเกมนั้นๆ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องการพักเหล่าตัวจริงเท่านั้น แถมในระหว่างนั้นเขายังเคยต้องไปเล่นแบบยืมตัวกับอีกถึง 6 ทีม ระหว่างฤดูกาล 2009-10 ไปจนถึงซีซั่น 2014-15 อามอส หลุดพ้นจากการเป็นนักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยการย้ายไปอยู่กับ โบลตัน วันเดอเรอร์ส ในปี 2015 โดยที่มีเหรียญแชมป์ศึกชิงแชมป์สโมสรโลกกับ ลีก คัพ ร่วมกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ติดมือมา รวมถึงมีดีกรีลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด 7 นัดจากทุกรายการ โดยเดิมที โบลตัน ก็เป็นทีมสุดท้ายที่เขาไปเล่นแบบยืมตัวให้ในตอนที่ยังมีสัญญาเป็นนักเตะของ แมนฯ ยูไนเต็ด ถึงกระนั้น หลังจากย้ายมาอยู่กับ โบลตัน แบบถาวรแล้วนั้น เขาก็ได้เป็นตัวจริงให้กับทีมแค่ในฤดูกาลแรกเพียงฤดูกาลเดียว โดยหลังจากนั้นเขาต้องไปเล่นแบบยืมตัวกับอีก 3 ทีม แล้วล่าสุดถึงได้ย้ายมาอยู่กับ ชาร์ลตัน แบบถาวร เมื่อช่วงซัมเมอร์ ปีก่อน แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้เป็นตัวจริงให้กับทีมของ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ อยู่ดี แซม จอห์นสโตน (ปัจจุบันอายุ 27 ปี อยู่กับ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน) จอห์นสโตน มาเข้าอะคาเดมี่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในซีซั่น 2010-11 โดยที่เขาได้ลงเฝ้าเสาเป็นตัวจริงหลายนัดด้วย และเขาก็เคยมีชื่อเป็นตัวสำรองในเกม พรีเมียร์ลีก นัดเปิดฤดูกาล 2015-16 ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เจอกับ สเปอร์ส เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม จอห์นสโตน ก็เป็นอีก 1 นายด่านชาวอังกฤษจากอะคาเดมี่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ไม่สามารถก้าวไปถึงการเป็นตัวหลักในทีมชุดใหญ่ได้ เขาต้องตระเวนไปเล่นแบบยืมตัวกับหลายต่อหลายทีม ก่อนที่ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน จะควักเงิน 6.5 ล้านปอนด์ เพื่อดึงเขาไปร่วมทีมในปี 2018 จอห์นสโตน สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงของ เวสต์บรอมฯ เอาไว้ได้ และตอนนี้กำลังมีลุ้นที่จะได้ขึ้นมาเล่นใน พรีเมียร์ลีก ด้วย เพราะปัจจุบัน เวสต์บรอมฯ เป็นจ่าฝูงของ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ด้วยผลงาน 71 คะแนน จากการลงเล่น 38 นัด เท่ากับ ลีดส์ ยูไนเต็ด

วันพุธที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2563

อยากไป แต่ไปไม่ได้ 25 ล้านรออยู่ข้างหน้า


ก่อนหน้านี้ อลิเรซ่า เบย์รันวานด์ ผู้รักษาประตูมือหนึ่งทีมชาติอิหร่าน ของสโมสรฟุตอบเปอร์ซิโปลิส ตกเป็นข่าว


ว่าเป็นเป้าหมายของสโมสรรอยัล อันเวิร์ป ในลีกเบลเยียม ช่วงปลายปี 2019 ที่ผ่านมา หลังจากที่ มาร์ค วิลม็อตล์ อดีตกุนซืออิหร่าน ชาวเบลเยียมแนะนำให้กับสโมสรดังกล่าว ทุกอย่างทำท่าว่าจะเดินหน้าไปได้ด้วยดี เพราะสโมสรเองก็เห็นความสามารถและอยากได้ผู้รักษาประตูรายนี้ไปเฝ้าเสา โดยบทสรุปของสัญญาเบื้องต้นเกิดขึ้นช่วงวันที่ 29 ม.ค.63 ที่ผ่านมา  นักเตะจะได้รับสัญญา 3 ปี พร้อมค่าเหนื่อย 7 แสนยูโร(ประมาณ 25 ล้านบาท)
 
ทุกอย่างจะสมบูรณ์จะต้องผ่านการตรวจร่างกายในขั้นตอนสุดท้ายโดยทั้งสองฝ่ายวางแผนที่จะลงรายละเอียดขั้นสุดท้ายกันในช่วงหลังเจรจาเบื้องต้น แต่จนถึงทุกวันนี้ อลิเรซ่า เบย์รันวานด์ ผู้รักษาประตูมือหนึ่งทีมชาติอิหร่าน วัย 27ปี ยังไม่สามารถเดินทางไปยังปลายทางที่ประเทศเบลเยียมได้เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19  ซึ่งกฎระเบียบของแต่ละประเทศยังอยู่ในความเข้มข้นในการห้ามเข้าออกของชาวต่างชาติ

ponceyhighland.com

Tehrantimes  สื่ออิหร่านรายงานว่า


ก่อนหน้านี้ อลิเรซ่า พยายามเดินทางไปยังเบลเยียมหลายครั้งตั้งแต่เจรจาทุกอย่างลงตัว แต่ท้ายที่สุดก็ไม่สามารถเดินทางไปได้ ล่าสุดที่จอมหนึบรายนี้พยายามคือการเดินทางออกจากอิหร่านเมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 มิ.ย.63 ที่ผ่านมา สุดท้ายแล้วเจ้าหน้าที่ที่สนามบินนานาชาติอิหร่านไม่อนุญาตให้ออกจากประเทศ เพราะถูกมองว่าไม่มีความจำเป็นในการเดินทางช่วงนี้

นอกจากเรื่องของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงนี้แล้วที่ผ่านมาสื่อเบลเยียมยังนำเสนอปัญหาของผู้รักษาประตูอิหร่านยังมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของวีซ่าที่ยังไม่ลงตัวทำให้ยังไม่สามารถเดินทางไปสู่สโมสรรอยัล อันเวิร์ป ในลีกเบลเยียม ได้อย่างที่ต้องการ ด้านสโมสรเปอร์ซิโปลิสออกแถลงการณ์สั้น ๆ บนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสโมสรว่า แม้จะมีปัญหามากมาย แต่ที่ผ่านมามีการประสานงานกับทางเบลเยี่ยมตลอดมา สโมสรจะต้องเร่งดำเนินการตามขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อให้ อลิเรซ่า เบย์รันวานด์ เดินทางไปเล่นในยุโรปให้ได้ ponceyhighland.com สำหรับ อลิเรซ่า เบย์รันวานด์ ผู้รักษาประตูมือหนึ่งทีมชาติอิหร่าน ของสโมสรฟุตอบเปอร์ซิโปลิส วัย 27 ปี โชว์ฟอร์มได้ดีทั้งในศึกฟุตบอลโลก 2018 และ เอเซียน คัพ 2019

ทำให้หลายทีมในยุโรปให้ความสนใจ ทั้งในลีกเบลเยียม,บุนเดสลีกา เยอรมัน รวมไปถึงทีมในลีกอิตาลี แต่สุดท้ายตัดสินใจไปเล่นให้กับ สโมสรรอยัล อันเวิร์ป ในลีกเบลเยียม ตามคำแนะนำของ มาร์ค วิลม็อตล์ อดีตกุนซืออิหร่าน ซึ่งเป็นการออกเดินทางไปค้าแข้งต่างแดนครั้งแรกของผู้รักษาประตูรายนี้

"หลวงพี่ปาม" เปลี่ยนลานวัดสร้าง "เด็กวัด ยูไนเต็ด" สอนจากยูทูปหวังห่างอบายมุขสู่แชมป์


เปิดใจ..."หลวงพี่ปาม" 


พระใบฎีกานันทโชติ ชวโน เจ้าอาวาสหนุ่มแห่งวัดบางใหญ่ สุราษฎร์ธานี ของบสร้างสนามฟุตซอลลานวัด จำวิธีสอนบอลจากยูทูป,หนังสือถ่ายทอดสู่ทีม "เด็กวัด ยูไนเต็ด" ว่างจากกิจนิมนต์พาทีมเดินสายแข่งคว้าแชมป์สมหวัง-ผิดหวังก็มี ตั้งเป้าให้เยาวชนห่างอบายมุข
 
ภายหลังจากที่รัฐบาลไทย โดย ศบค. ผ่อนปรนกิจกรรมกีฬาฟุตบอลให้สามารถกลับมารวมตัวฝึกซ้อมกันได้แล้วจากวิกฤต โควิด-19 ที่เริ่มเบาบางลงแล้ว ทำให้กิจกรรมฟุตบอลทั่วประเทศไทยเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง มีเรื่องที่น่าสนใจเกิดขึ้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ที่ ต.ลีเล็ด อ.พุนพิน เมื่อทีมงานฟุตบอลสยามรายวันได้รับทราบว่า เจ้าอาวาสวัดบางใหญ่ ท่านมีความสนใจในเรื่องฟุตบอลเป็นอย่างมาก ที่สำคัญท่านเองลงมือสร้างอะคาเดมีภายในวัด เพื่อให้เด็กๆและเยาวชนได้ใช้เวลาว่างในการเล่นฟุตบอลและฟุตซอลเพื่อให้ห่างไกลจากอบายมุขด้วย

plsmis.com

ทีมงานฟุตบอลสยามรายวัน สัมภาษณ์ พระใบฎีกานันทโชติ ชวโน หรือ "หลวงพี่ปาม" เจ้าอาวาสหนุ่ม วัดบางใหญ่ ตำบลลีเล็ด อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี 


ที่เผยเปิดใจถึงการลงมือทำอะคาเดมี่กีฬาฟุตซอลเพื่อสร้างโอกาสให้กับเด็กๆเยาวชนในพื้นที่ว่า "อาตมา ชื่อ พระใบฎีกานันทโชติ ชวโน อายุ 30 ปี บวชมา 9 พรรษา เดิมทีก่อนที่จะบวช อาตมาชื่นชอบกีฬาฟุตซอลอยู่แล้ว มาถึงปี พ.ศ.2560 อาตมาย้ายมารับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบางใหญ่ ประกอบกับที่วัดนี้ที่องค์การบริหารส่วนตำบลลีเล็ด สร้างลานกีฬาไว้ให้กับคนในชุมชนได้ออกกำลังกาย เลยนึกขึ้นว่าเวลาว่างจากกิจนิมนต์ตอนเย็นๆถ้ามีเด็กเข้ามาเตะฟุตซอลคงจะดี"

"อาตมาเลยไปคุยกับ นายก อบต.ลีเล็ด ท่านเลยปรับปรุงเป็นสนามฟุตซอลให้จนถึงปัจจุบัน หลังจากได้สนามฟุตซอลก็เริ่มมีเด็กในชุมชนเข้ามาจาก 5-6 คน เพิ่มขึ้นเป็น 20-30 คนในปัจจุบัน" "ลึกๆแล้วสาเหตุที่ตัดสินใจทำทีมให้เด็กๆแบบจริงจัง อาตมาแค่อยากให้เด็กซึ่งอยู่รอบบริเวณวัดได้เข้ามาเป็นฐานให้กับวัดบางใหญ่ เพราะมองว่าต่อไปเด็กๆเหล่านี้จะต้องเป็นกำลังหลักให้กับวัดในการช่วยเหลือดูแลวัดบางใหญ่ในอนาคต นี้คือความตั้งใจหลักของอาตมา อีกอย่างตอนเย็นๆเด็กไม่ต้องไปมั่วสุมกับอบายมุขต่างๆที่อยู่รอบๆตัวของพวกเขา เย็นมาซ้อมฟุตซอลอยู่ที่วัด พ่อแม่เด็กก็สบายใจไม่ต้องกังวล"ถามถึงขั้นตอนการฝึกสอนฟุตซอลให้เด็กๆเป็นอย่างไร "หลวงพี่ปาม"พระใบฎีกานันทโชติ ชวโน ได้เผยว่า "การฝึกสอนเเรกเริ่มเดิมที่ลงไปสอนเองแบบงูๆปลาๆ ดูจากยูทูปบ้าง หาหนังสือมาอ่านมาดูแล้วนำไปสอนเด็กๆบ้าง ปัจจุบันมีโค้ชเข้ามาช่วยสอน เช่น พี่แบงค์ นคร คิดเห็น กองหน้าจากทีมกุ้งสายฟ้า สุราษฎร์ธานี , พี่ยักษ์ ศักดิ์ศรี โสธิกัน โค้ชประตูของกุ้งสายฟ้าสุราษฎร์ธานีบ้าง แวะเวียนมาช่วยสอนน้องๆ" plsmis.com "ถามว่าพาทีมไปแข่งขันเยอะมั้ยระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา อาตมาพาเด็กๆเดินสายไปแข่งทั่วทั้งจังหวัดสุราษฎร์ธานีและจังหวัดใกล้เคียง ทั้งรุ่น12ปี , 14ปี , 16ปี ในนามของทีม เด็กวัด ยูไนเต็ด มีทั้งผิดหวังสมหวังปะปนกันไป สูงสุดได้แชมป์ฟุตซอลบางใหญ่คัพครั้งที่1 รุ่นอายุ 16 ปี , ได้รองแชมป์บางใหญ่คัพครั้งที่1 รุ่น 12 ปี ได้แชมป์รายการพระแสงรำลึกรุ่นอายุ 14 ปี อย่างนี้เป็นต้น"

ทิ้งท้าย "หลวงพี่ปาม"พระใบฎีกานันทโชติ ชวโน ยังเผยด้วยว่า "สิ่งที่ได้รับกลับมาคือความผูกพันระหว่างเด็กๆกับวัด และเชื่อว่าต่อไปอนาคตข้างหน้าเด็กๆเหล่านี้จะเป็นกำลังหลังในการพัฒนาวัดบางใหญ่ต่อไป"

มันคาใจ ทำไมปีเตอร์ วิธ ถึงทำกับผมได้


ยุคที่ทีมชาติไทยทำผลงานได้ดีที่สุด ถึงขนาดเคยขึ้นไปติดอันดับสูงที่สุดของฟีฟ่าคือ 43 เมื่อปี 2541 


ซึ่งเป็นยุคที่กุนซือทีมชาติไทยเป็นชาวอังกฤษ ชื่อ ปีเตอร์ วิธ พาทีมประสบความสำเร็จมากมายรวมถึงเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพในปี 1998 ด้วย แม้ผลงานจะยอดเยี่ยม แต่ดูเหมือนจะมีนักเตะไทยคนหนึ่งซึ่งดูจะไม่ถูกโฉลกกับการทำทีมชาติไทยของ ปีเตอร์ วิธ สักเท่าไหร่ แม้จะถูกเรียกติดทีมชาติ แต่กลับไร้โอกาสในการลงเล่น นั่นก็คือ “เจ้าโป้ง”ยุทธพงษ์ บุญอำพร กองหน้าทีมสินธนา ในยุคนั้น

เส้นทางการติดทีมชาติชุดใหญ่ของ ยุทธพงษ์ ค่อนข้างแปลกกว่าชาวบ้าน ปกติเจ้าตัวจะลงเล่นในฐานะกองหลังให้กับทีมมาตลอด จนเมื่อกองหน้าของสินธนาอย่าง เศกสรรค์ ปิตุรัตน์ และธนัญชัย บริบาล ย้ายไปเทโรฯ ทีมเจอปัญหายิงคู่แข่งไม่ได้ และไม่ชนะมา 4 นัดติดต่อกัน ทำให้เจ้าตัวอาสาเล่นกองหน้าให้ และระเบิดฟอร์มยิงประตูพาทีมเป็นแชมป์ไทยลีกในซีซั่นนั้น ผลงานโดดเด่นจับตาขนาดนั้น โค้ชชัชชัย พหลแพทย์ และผจก.ทีม วิรัช ชาญพานิชย์ จึงอดใจไม่ไหวเรียกมาเก็บตัวกับทีมชาติไทยเพื่อเตรียมแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพในปี 1998

pbirg.com

ก่อนแข่งช่วงเดือนสุดท้าย ปีเตอร์ วิธ ก็เข้ามาคุมทีม


“ก่อนแข่งยังมีโอกาสได้ลุ้นลง แต่พอตอนแข่งแทบไม่เคยได้ลงเลย อันนี้พอรับได้เพราะผมเพิ่งขึ้นมา แต่ ที่ช้ำสุดคือ เกมรอบรองฯ กับคูเวต “พี่โย่ง”วรวุธ ติดโทษแบน ต้องหาคนยืนหน้าคู่กับ “ซิโก้” โควต้ากองหน้าเหลือผมกับดาวรุ่งอีกคน ซึ่งขอไม่บอกละกันว่าใคร ดีกรีผมเพิ่งพาทีมสินธนาคว้าแชมป์ไทยลีกมา โอกาสของเรามาถึงแล้ว เพื่อนๆ ญาติ ๆ มาเชียร์กันคึกคัก ที่ไหนได้ประกาศชื่อมา ผมสำรองอีกแล้ว ยอมรับว่าผิดหวังมาก

มาทราบตอนหลังเขาโหวตกันให้ผมลง แต่ ปีเตอร์ วิธ ไม่เอาผมยืนตัวจริง แต่สุดท้ายก็ได้ลงนะ ตอนที่เราโดนคูเวตนำไป 0-3 แล้ว 555 ก็เสียดายครับ เพราะตอนนั้นมั่นใจว่าจะได้ลงคู่ “ซิโก้”แน่ แต่สุดท้ายความหวังวูบไป” หลังจากรายการเอเชี่ยนเกมส์ผ่านไป 2 ปี ปีเตอร์ วิธ มีโอกาสไปนั่งดูเกมฟุตบอลมหาวิทยาลัย ยูลีก ผมเล่นให้ม.จันทร์เกษม เขามาดูเกมแล้วชอบใจแต่จำผมที่เล่นในสนามไม่ได้ ให้คน เรียกผมขึ้นไปหา พอเห็นหน้าเขาก็ยิ้มเหมือนจำผมได้ แต่ก็เรียกไปเก็บตัวนะ ผมจำไม่ได้แล้วว่ารายการอะไร ตอนนั้นผมพกพาความมั่นใจไปเต็มที่เพราะเพิ่งได้นักเตะยอดเยี่ยมยูลีกมาด้วย ช่วงนั้นมีเกมอุ่นเครื่องก่อนตัดตัวกับทหารอากาศ pbirg.com ซึ่งเพิ่งจะเป็นแชมป์ลีกเมืองไทย ผมยิงให้ทีมชาติไป  3 ลูก แต่พอตอนประกาศชื่อผมหลุดทีมชาติอีกแล้ว จากนั้นผมก็ไม่มีโอกาสโผล่ไปติดทีมชาติอีกเลย เขาก็อยู่คุมทีมยาวจนผมค่อย ๆ แผ่วไปและก็ไม่เคยมีชื่อติดทีมชาติอีกเลย”

“เจ้าโป้ง”มาเปิดใจตอนท้ายว่า ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะผลงานปีเตอร์ วิธ ตอนนั้นทำทีมชาติไทยได้ดีจริง ๆ “ผมไม่โกรธเขานะ แต่คิดว่าตัวเองสไตล์การเล่นเป็นแบบต่อบอลแบบสเปน เขาคงไม่ชอบสไตล์กองหน้าแบบนี้ น่าจะชอบสไตล์ฟิต วิ่งเร็ว แบบสไตล์อังกฤษมากกว่า ผมเข้าใจเขานะ แต่ก็อดเสียดายลึก ๆ ไม่ได้ว่า ตัวเองน่าจะมีโอกาสมากกว่าตอนนั้นสักนิด”

บอลสไตล์ปักษ์ใต้ เน้นเด็กถิ่น โค้ชดีกรีลีกสูงสุด ที่นี่ สงขลา ไม่ได้มีดีแค่สนามติณฯ


บรรยากาศชาวสงขลาร้องเพลงเชียร์ทีมลูกหนังบ้านเกิด คือภาพประทับใจชวนให้หลงใหล


สายลมโชยเย็น ๆ พัดมาจากริมทะเลอ่าวไทย ตกเย็นพลบค่ำเสียงรถเครื่องชุกชุมจอดเรียงรายเลาะรั้วริมสนาม บรรยากาศชาวสงขลาร้องเพลงเชียร์ทีมลูกหนังบ้านเกิด เมื่อราวเกือบสิบปีก่อน คือภาพประทับใจชวนให้คนทั่วไปได้หลงใหล คลื่นมหาชนจำนวน 36,715 คน ณ สนามติณสูลานนท์ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2554 คือความทรงจำของแฟนฟุตบอลชาวไทยที่หลายคนยังไม่ลืม นับแต่วันนั้นชาวสงขลาพิสูจน์ให้คนทั่วประเทศเห็นแล้วว่าถิ่นบ้านเกิดของพวกเขาคลั่งไคล้เกมลูกหนังมากเพียงใด หลังจบฤดูกาล ไทยลีก 2 ประจำปี 2011 บุรีรัมย์ เอฟซี เจ้าของแชมป์ลีกรอง(ดิวิชั่น 1) ได้สิทธิ์เลื่อนชั้นขึ้นสู่ไทยลีก 2012 แต่ทีมจากแดนอีสานใต้ขายสิทธิ์ 'บุรีรัมย์ เอฟซี' ให้กับกลุ่มผู้บริหารฟุตบอล สงขลา เอฟซี นั่นหมายความว่าสิทธิ์นั้นตกมาอยู่กับ จ.สงขลา ซึ่งตัดสินใจใช้ชื่อทีมในนาม วัวชน ยูไนเต็ด ลงเล่นในลีกสูงสุด ส่วนทีมเดิมอย่าง สงขลา เอฟซี นั้นก็ยังคงอยู่ในลีกรองต่อไป

 1 ฤดูกาลผ่าน ขณะที่ วัวชน ยูไนเต็ด ยืนหยัดลีกสูงสุดได้ แต่ สงขลา เอฟซี กลับไม่สามารถเอาตัวรอดจากลีกรอง พวกเขาจบอันดับที่ 14 ต้องตกชั้นไปลีกล่างสุด สโมสรสงขลาจึงตัดสินใจยุบทีมเพื่อไปโฟกัสกับ วัวชน ยูไนเต็ด ทีมเดียว จาก วัวชน ยูไนเต็ด เปลี่ยนชื่อเป็น สงขลา ยูไนเต็ด ว่ากันตามตรงศักยภาพของทีมยังไม่อาจต่อกรกับบรรดาทีมอื่น ๆ บนไทยลีก 1 ได้ จบฤดูกาล 2014 ในปีที่มีการตกชั้นถึง 5 ทีมพวกเขาเป็นหนึ่งใน 5 ทีมสุดท้ายของตารางที่ร่วงลงไปเล่น ไทยลีก 2 และจากนั้นมา สงขลา กับ ลีกสูงสุด ก็ไม่ได้มาบรรจบมาเจอกันอีกเลย สถานการณ์ของ สงขลา ยูไนเต็ด ยิ่งแย่ลง ปี 2017 พวกเขาจบอันดับ 16 ของไทยลีก 2 ร่วงหล่นชั้นไปเล่น ไทยลีก 3 บอร์ดบริหารจึงขอตัดสินใจหยุดพักส่งร่วมแข่งฟุตบอลในฤดูกาล 2018 ปิดตำนานทีมสงขลาที่เหลือไว้เป็นแค่ความทรงจำ อย่างไรก็ตาม ด้วยพื้นเพคนสงขลามีใจรักฟุตบอลอยู่ในสายเลือดชนิดเข้าเส้น จึงได้เกิดทีมใหม่ขึ้นจากการรวมทีมของคนรุ่นใหม่ภายใต้ชื่อ สงขลา เอฟซี ด้วยจุดประสงค์คืออยากสร้างทีมประจำจังหวัดขึ้นมาอีกครั้ง
แม้ สงขลา ทีมนี้อาจไม่ใช่ทีมเดิมที่แฟนบอลคุ้นตา ทั้งโลโก สัญลักษณ์ ปรับรูปแบบใหม่ทั้งหมด แต่หยั่งลึกข้างในพวกเขาก็คือตัวแทนของคนท้องถิ่นที่หวังเห็นทีมบ้านเกิดยืนหยัดบนลีกไทยอีกครั้ง

pattypravoweb.com

ปี 2018 สงขลา ยูไนเต็ด เปิดตัวใน อะเมเจอร์ ลีก หรือลีกสมัครเล่น ไม่ประสบความเร็จเท่าไหร่นัก 


แต่สโมสรยังเดินหน้าลุยต่อไปโดยมี 'โค้ชเหน่ง' อ.สัมพันธ์ โยธาทิพย์ เป็นผู้ฝึกสอน ซึ่งปีต่อมาพวกเขาก็คว้าตั๋ว ไทยลีก 4 ได้สำเร็จ การลงเล่น ไทยลีก 2020 หลังจากที่สมาคมฟุตบอลฯ ยุบเอา T3 และ T4 รวมกันทำให้ สงขลา เอฟซี ต้องยกระดับตัวเองขึ้น พวกเขาได้ร่วมงานกับ 'โค้ชโดนัท' อัคถภรณ์ ชลิตาภรณ์ โค้ชหนุ่มไฟแรงที่เคยทำทีม ไทย-ฮอนด้า บนลีกสูงสุด เข้ามาเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน รวมถึงดึงดาวเตะคู่บุญลูกหลานคนท้องถิ่นแท้ ๆ อย่าง ไชยรัตน์ หมัดศิริ และไม่นานนี้ก็เพิ่งคว้า พีรวิส ฤทธิ์ศรีบูรณ์ มิดฟิลด์จอมเก๋าดีกรีสูงเข้ามา เพื่อความหวังยกระดับทีมขึ้นไปอีกระดับ แม้สองชื่อที่เอ่ยไปคือดาวเตะรุ่นใหญ่ที่อายุ 30+ แต่เชื่อไหมว่าอายุเฉลี่ยผู้เล่น 'เงือกสมิหลา' อยู่ที่ 26 ปีเท่านั้นแถมส่วนใหญ่กว่า 80% คือคนปักษ์ใต้แท้ ๆ

ตามคำบอกของ คุณพงศรัญ อินทุเศรษฐ ผู้จัดการทีม เล่าว่าเหตุผลที่เลือกแนวทางการทำทีมแบบนี้คืออยากอาศัยแกนหลักที่เป็นคนท้องถิ่น เพราะพื้นฐานของสโมสรคือเน้นเลือกคนสงขลา รวมถึงผสมผสานนักเตะจากจังหวัดอื่น ๆ ของภาคใต้ เพื่อให้เข้าใจบอลสไตล์ใต้มากที่สุด ถามว่าสไตล์ฟุตบอลใต้เป็นอย่างไร? คำตอบคือ บอลสไตล์ใต้เป็นฟุตบอลที่ใช้แทกติกไม่มาก เน้นเพรสซิ่ง วิ่งเข้าใส่ อาศัยความสามารถเฉพาะตัว ที่สำคัญคือวิ่งไม่หมดจนกว่าจะสิ้นเสียงนกหวีด ซึ่งแฟนบอลอย่างเรา ๆ คุ้นตามาแล้วสมัยที่ วัวชน หรือ สงขลา ยูไนเต็ด เล่นบนไทยลีก 1 ตลอดจนนักเตะปักษ์ใต้ในทีมชุดปัจจุบันก็เคยผ่านประสบการณ์ลีกสูงสุด ไม่ว่าจะเป็น วัศพล เจือพันธ์(สุพรรณบุรี เอฟซี), ปานเทพ โชติกวิน(สงขลา ยูไนเต็ด), อัครพล มีสวัสดิ์(บีอีซี เทโร) และไชยรัตน์ หมัดศิริ ยอดกัปตันทีมกระดูกเหล็กของทีม ขณะเดียวกัน ผู้เล่นรายอื่น ๆ ก็ถือว่าเป็นการรวมตัวกันของอดีตแข้งดั้งเดิมที่เคยอยู่ สงขลา ยูไนเต็ด เช่น ธีรวัฒน์ ดุนี, นิพนธ์ นิลจันทร์ และกิตติพันธ์ ชาญโพธิ์ เรียกว่าทั้งหมดมีทั้งประสบการณ์และเลือดคนใต้ 100% ที่พร้อมจะพา สงขลา เอฟซี สู้ศึก ไทยลีก 3 ในส่วนของตัวต่างชาติ 'เงือกสมิหลา' มีแข้งเด็ด ๆ พันธุ์แซมบ้าถึง 3 ราย ได้แก่ เดย์วิซอน เฟร์นานเดส ปีกความเร็วอาวุธหนักทางริมเส้น ซึ่งล่าสุดเจ้าตัวก็เพิ่งต่อสัญญากับทีมออกไป รวมถึง มาร์ลอน ดา ซิลวา ที่เล่นในตำแหน่งกองหลัง และ ดาร์ลัน เบนวินโด กองหน้าเจ้าของฉายา 'นิวคานู' โดยทั้งหมดมีเป้าหมายพาต้นสังกัดตะลุยเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก เพื่อเลื่อนชั้นขึ้นไปเล่น T2 ตามแนวทางและปรัชญาของ สงขลา เอฟซี คือสร้างเยาวชนในท้องถิ่นควบคู่กันไป เพื่อปูรากฐานให้มั่นคง ต่อยอดสู่ระดับที่สูงขึ้น เยาวชนท้องถิ่นสงขลา ขึ้นชื่อว่าไม่เป็นสองรองใคร มีนักเตะพื้นเพก้าวขึ้นเป็นผู้เล่นดีกรีระดับทีมชาติ pattypravoweb.com ตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน ไม่ว่าจะ วรวุธ ศรีมาฆะ, ธงชัย อัครพงศ์, สุริยา สิงห์มุ้ย, อดิศร พรหมรักษ์, ฉัตรมงคล ทองคีรี และอีกหลาย ๆ คนที่ไม่ได้เอ่ยชื่อมา ดาวรุ่งรายล่าสุด เห็นจะเป็น 'บ่าว' ฟารีด ชูรุ่ง กำลังจะเป็นอีกหนึ่งคนที่สร้างชื่อให้กับจังหวัด เด็กคนนี้คือคนพื้นเมืองแท้ ๆ และมีดีกรีเป็นถึงนักเตะในโครงการ Fox Hunt และเป็น 1 ใน 10 ผู้เล่นเยาวชนที่ได้ไปฝึกทักษะกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ยอดสโมสรในเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อเกือบ ๆ 3 ปีก่อน ซึ่งปัจจุบัน 'บ่าว' ในวัย 18 ปีก็เตรียมตัวสานฝันการเป็นนักอาเตะชีพบนลีกสูงสุดของเมืองไทย

สนามติณสูลานนท์ ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงาม ซึ่ง สงขลา เอฟซี ใช้ที่นี่เป็นรังเหย้า และถึงแม้จำนวนผู้ชมจะเทียบไม่ได้กับสมัยก่อนแต่ขึ้นชื่อว่า 'สนามติณฯ' แล้ว ก็ย่อมสร้างความกดดันให้กับคู่แข่งได้แน่นอน หากชาวสงขลาหรือคนปักษ์คนไหนยังไม่ปักใจเชียร์ทีมใด หรือยังหลงใหลในกลิ่นอายความเป็น 'วัวชน' แบบดั้งเดิม รับรองว่า สงขลา เอฟซี จะไม่ทำให้ผิดหวังและจะได้รับความอบอุ่นใจเสมือนคนในครอบครัวแบบเป็นกันเอง

หมายเลข 3 เบอร์ตำนานที่ยิ่งใหญ่ของ 'โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส'


โก๋อุ๋ม ธีราทร บุญมาทัน 


กลายเป็นแข้งชาวไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ลีกกับ 'โยโกฮาม่า เอฟมารินอส' เราเห็นเขายกโทรฟี่ในเมืองไทยบ่อยครั้งจนชินตากับทั้ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด , เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และ ทีมชาติไทย กับเจ้าของเสื้อหมายเลข 2 และ 3 ซึ่งในเชิงฟุตบอลแล้ว นี่คือเบอร์ที่บ่งบอกสำหรับการลงเล่นในตำแหน่งแบ็กซ้าย

มีผู้เล่นเบอร์ 3 ในตำแหน่งแบ็คซ้ายมีชื่อเสียงระดับโลกมากมายทั้ง แอชลี่ย์ โคล ตำนานแบ็คซ้ายของอาร์เซน่อล และ เชลซี หรือ โรแบร์โต้ คาร์ลอส ตำนานแบ็คซ้ายทีมชาติบราซิล และ เรอัล มาดริด ความจริงแล้วเสื้อเบอร์ 3 ของสโมสรโยโกฮาม่า เอฟมารินอส ว่างอยู่ในขณะนี้ และถ้าพูดถึงตำแหน่งและความสำเร็จของแบ็คซ้ายทีมชาติไทย ก็มีความเหมาะสม

panozzos.com

เหตุที่เขาไม่ได้สวมเสื้อหมายเลขนี้


1. เจ้าตัวไม่ได้ต้องการจะใส่เบอร์นี้อยู่แล้ว และไม่ได้มีความวุ่นวายอะไรกับหมายเลข หน้าที่ของเขาคือทำผลงานให้ดีที่สุดในสนาม และ 2. ต่อให้อุ้มต้องการสวมใส่จริง ๆ ก็คงทำไม่ได้ เพราะเบอร์ 3 ถูกรีไทร์ไปให้กับผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของสโมสร

เบอร์นี้ถูกยกเลิกไปตั้งแต่ปี 2011 เพื่อให้เกียรติแก่ นาโอกิ มัตซึดะ อดีตแนวรับทีมชาติญี่ปุ่น และของโยโกฮาม่า เอฟ มารินอส มาตั้งแต่ปี 1995 สมัยยังเป็นแข้งวัยรุ่นอายุ 18 ปี จนถึงปี 2010 นาโอกิ มัตซึดะ รับใช้สโมสรตั้งแต่ชื่อเดิม คือ โยโกฮาม่า มารินอส และ ยุบทีมรวมกับ โยโกฮาม่า ฟลูเกลส์ จนเป็น โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ในปัจจุบัน นี่คือผู้เล่นระดับตำนานของสโมสรลงเล่นไปมากกว่า 500 นัด พาทีมคว้าแชมป์เจลีก 3 สมัย ในปี 1995 , 2003 , 2004 และ เจลีก คัพ 1 สมัยปี 2001 พร้อมกับติดทีมยอดเยี่ยมเจลีก 2 ครั้ง ในปี 2000 และ 2002  เป็นธรรมดาของโลกฟุตบอล เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น คงไม่มีใครรักษาระดับการเล่นไว้บนลีกสูงสุดได้ตลอด panozzos.com ปี 2010 มัตซึดะ ย้ายจากลีกสูงสุด ไปเล่นให้กับ มัตสึโมโตะ ยามากะ ในเจ 3 แต่เขาก็เป็นกำลังหลักของทีมในช่วงนั้น วันที่ 4 สิงหาคม 2011 เป็นวันแสนเศร้าของลูกหนังญี่ปุ่น ขณะที่ มัตซึดะ กำลังฝึกซ้อมกับทีมก่อนหมดสติและพบว่าเจ้าตัวหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน เขาจากไปอย่างสงบด้วยวัย 34 ปี

วันที่ 13 สิงหาคม 2011 เป็นวันประวัติศาสตร์ของฟุตบอลญี่ปุ่น เมื่อสโมสรโยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ตัดสินใจรีไทร์เสื้อหมายเลข 3 เพื่อเป็นเกียรติแก่ นาโอกิ มัตซึดะ อดีตตำนานแบ็คซ้ายของทีม ซึ่งนับเป็นสโมสรแห่งแรกของญี่ปุ่นที่ได้ทำสิ่งนี้ขึ้น เบอร์เสื้อหมายเลข 3 แฟนบอลโยโกฮาม่า เอฟมารินอส ไม่ได้มีความจดจำเท่าช่วงเวลาที่ นาโอกิ มัตซึดะ ทุ่มเท่ให้กับสโมสรแห่งนี้เป็นระยะเวลากว่า 16 ปี นี่ต่างห่างละ สิ่งที่แฟนบอลจดจำ ไม่ใช่เบอร์เสื้อ

2 ทีมเมืองแมนเชสเตอร์แอบเหล่! เทียบผลงาน ไบลี่ย์ ระหว่างฤดูกาลก่อนกับซีซั่นนี้


ตลอดเวลาที่ผ่านมามีนักเตะบางคนที่ทั้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต่างก็ให้ความสนใจที่จะคว้าตัวไปร่วมทัพทั้งคู่ 


อย่างเช่น เซร์คิโอ อเกวโร่ ดาวยิงชาวอาร์เจนไตน์ที่สุดท้ายมาอยู่กับ "เรือใบสีฟ้า" และ เฟร็ด มิดฟิลด์ชาวบราซิเลียนที่ตอนนี้มาเล่นกับ "ปีศาจแดง" ไลออน ไบลี่ย์ ปีก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ก็เป็นรายล่าสุดที่เข้าข่ายนั้น หลังจากที่ แมนฯ ยูไนเต็ด มองว่าเขาจะเป็นตัวเลือกสำรองที่ดีของทั้ง เจดอน ซานโช่ และ แจ็ค กรีลิช ที่ค่าตัวสูงลิบ 

ส่วน แมนฯ ซิตี้ คิดว่าเขาจะเป็นตัวแทนของ ลีรอย ซาเน่ ที่ส่อแววย้ายไปซบ บาเยิร์น มิวนิค ได้ดี คำถามคือดาวเตะวัย 22 ปีมีผลงานที่ดีแค่ไหน ? ซึ่งวันนี้เราก็จะมาเปรียบเทียบผลงานของเจ้าตัวระหว่างฤดูกาลก่อนกับซีซั่นนี้กัน การเลี้ยงบอล แน่นอนว่าถ้าจะพูดถึงปีกแล้วนั้น สิ่งนี้ก็คือคุณสมับติที่หลายคนให้ความสนใจมากที่สุด ซึ่งในฤดูกาลนี้ ไบลี่ย์ สามารถเลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งในลีกได้เฉลี่ยแล้ว 1.5 ครั้งต่อเกม โดยถือว่าดร็อปกว่าซีซั่นก่อนนิดหน่อยที่เขาเลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งในลีกได้ 1.8 ครั้งต่อนัด

palmiguia.com

อย่างไรก็ตาม เขาก็โดนคู่แข่งฉกบอลไปจากเท้ายากกว่าเดิม!!


เพราะหลังจากซีซั่นที่แล้วโดนแย่งยอบไป 1.5 ครั้งต่อเกม แต่ซีซั่นนี้ตัวเลขดังกล่าวก็ลดมาเหลือ 1.1 ครั้งต่อนัด นอกจากนี้ ฤดูกาลนี้เขายังจับบอลพลาดจนทำให้บอลหลุดจากเท้า 1.6 ครั้งต่อนัด ดีกว่าซีซั่นก่อนที่ค่าเฉลี่ยด้านนี้อยู่ที่ 2.2 ครั้งต่อเกมด้วย

การผ่านบอล ด้วยความที่เป็นปีกทำให้หน้าที่หลักๆ ในด้านการผ่านบอลของ ไบลี่ย์ จะเป็นการครอสบอลเข้ามาจากด้านข้าง โดยฤดูกาลนี้เขามีค่าเฉลี่ยการครอสบอลเข้าเป้า 0.9 ครั้งต่อนัด ซึ่งก็ถือว่าตกลงมาจากซีซั่นที่แล้วนิดหน่อย จากการที่ฤดูกาลก่อนทำเอาไว้ 1.3 ครั้งต่อเกม ขณะที่ในด้านการผ่านบอลโดยรวม เขาก็ทำได้ตกลงนิดหน่อย หลังจากเปอร์เซ็นต์การผ่านบอลเข้าเป้าในฤดูกาลนี้อยู่ที่ 71.1 เปอร์เซ็นต์ ส่วนของฤดูกาลที่แล้วทำเอาไว้ 74.4 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ ค่าเฉลี่ยกาารผ่านบอลจังหวะสำคัญก็ลดจาก 1.6 ครั้งต่อเกม มาเหลือ 0.9 หนต่อนัดด้วย การช่วยเกมรับ ในบางครั้งปีกก็ต้องวิ่งกลับมาเล่นเกมรับเพื่อช่วยทีมบ้าง palmiguia.com ซึ่งฤดูกาลที่แล้วเขาก็มีค่าเฉลี่ยการเข้าสกัดโดนบอล 0.5 ครั้งต่อนัด, ตัดบอลโดยที่ไม่ต้องพุ่งเสียบได้ 0.5 ครั้งต่อเกม และเสียฟาวล์ไป 0.6 ครั้งต่อนัด โดยที่เขายังเคลียร์บอลให้พ้นจากพื้นที่อันตรายได้ 0.3 ครั้งต่อเกมเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ในซีซั่นนี้ผลงานเกมรับของเขาตกลงมานิดหน่อยทุกด้าน ไม่ว่าจะเป้นการเข้าสกัดโดนบอลที่ 0.3 ครั้งต่อเกม, ตัดบอลโดยที่ไม่ต้องพุ่งเสียบได้ 0.3 หนต่อนัด, เสียฟาวล์ 0.8 ครั้งต่อเกม และเคลียร์บอลพ้นพื้นที่อันตรายได้ 0.2 หนต่อนัด นอกจากนี้ ฤดูกาลนี้เขายังโดนใบแดงในลีกไปแล้ว 2 หน ต่างกับซีซั่นก่อนที่ไม่เคยโดนใบแดงเลย

อยู่ไหนบ้าง11ตัวจริงคล็อปป์คุมลิเวอร์พูลนัดแรก


สุขสันต์วันเกิดบอส ยังจำกันได้ไหม 11 ตัวจริงนัดแรกที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ลงคุม ลิเวอร์พูล เป็นใคร และตอนนี้อยู่ไหนกันบ้าง

     
เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล อายุครบ 53 ปี ในวันอังคารที่ 16 มิถุนายน และเชื่อว่า แฟนบอล "หงส์แดง" คงร่วมกันอวยพรให้กับกุนซือชาวเยอรมัน หลังเข้ามาสร้างทีมได้อย่างยอดเยี่ยมตั้งแต่มาทำงานในถิ่น แอนฟิลด์ เมื่อปี 2015 คล็อปป์ นำ "หงส์แดง" ลงเล่นเกมแรกในวันที่ 17 ตุลาคม 2015 ด้วยการบุกไปเสมอ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 0-0 และในวันนี้เราจะไปดูกันว่า 11 ตัวจริงที่เล่นเกมนั้นเป็นใคร และตอนนี้อยู่ที่ไหนกันบ้าง 

ซิมง มิโญเล่ต์ นายทวารเบลเจี้ยน เป็นมือ 1 ของ "หงส์แดง" ในเวลานั้น หลังย้ายมาจาก ซันเดอร์แลนด์ เมื่อปี 2013 ก่อนที่เวลานี้จะย้ายไปเฝ้าเสาให้ คลับ บรูช แล้ว นาธาเนียล ไคลน์ ไคลน์ ย้ายจาก เซาธ์แฮมป์ตัน มาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ในปี 2015 เช่นเดียวกับ คล็อปป์ และตอนนั้นกำลังฟอร์มรุ่งจนติดทีมชาติอังกฤษ ในตำแหน่งแบ็กขวา เวลานี้ ไคลน์ ยังอยู่กับ ลิเวอร์พูล แต่มีปัญหาบาดเจ็บมาตลอด รวมทั้งเป็นแค่ตัวเลือกรองจากทั้ง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และ โจ โกเมซ  มาร์ติน สเคอร์เทล  เซนเตอร์แบ็กจอมแกร่งชาวสโลวัก เป็นกำลังสำคัญในแนวรับของ ลิเวอร์พูล ช่วงเวลานั้น  และค้าแข้งในถิ่น แอนฟิลด์ นานถึง 8 ปี ก่อนไปอยู่กับ เฟเนร์บาห์เช่ ปี 2016 และเวลานี้ไปเล่นให้ อิสตันบูล เบซัคเซเฮียร์ ในลีกตุรกี มามาดู ซาโก้

oakcityhandyman.com

แม้จะเล่นพลาดหลายครั้ง แต่ ซาโก้ ก็เป็นตัวหลักของ คล็อปป์ ในช่วงแรก 


ก่อนมีปัญหาเรื่องตรวจโด๊ปในปี 2016 จากนั้นก็สร้างปัญหาในช่วงปรีซีซั่น จนโดนปล่อยไปให้ คริสตัล พาเลซ ยืมตัวในเดือนมกราคม ปี 2017 และเซ็นถาวรในช่วงซัมเมอร์ปีนั้น อัลเบร์โต้ โมเรโน่ แบ็กซ้ายชาวสแปนิช เป็นตัวเลือกเบอร์ 1 ตอนที่ คล็อปป์ เข้ามาคุมทีม แต่หลัง "หงส์แดง" ไปซื้อ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ในปี 2017 ก็หลุดสำรองยาว และย้ายไปเล่นให้ บียาร์เรอัล เมื่อปีที่แล้ว

เจมส์ มิลเนอร์ มิลเนอร์ เป็นนักเตะสารพัดประโยชน์โดยเล่นได้ทั้งกองกลาง, แบ็กขวา และ แบ็กซ้าย รวมทั้งรักษาสภาพร่างกายของตัวเองได้ดีมาก ทำให้ยังเป็นส่วนสำคัญของทีม เอ็มเร่ ชาน ชาน ย้ายจาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น มาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ในช่วงซัมเมอร์ปี 2014 และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม แต่สุดท้ายไม่ยอมต่อสัญญา และเลือกไปเล่นให้ ยูเวนตุส ในปี 2018 ก่อนมาอยู่กับ ดอร์ทมุนด์ แบบยืมตัวในเวลานี้ ลูคัส เลว่า เลว่า อยู่กับ ลิเวอร์พูล ตั้งแต่ปี 2007 อย่างไรก็ตาม หลังการย้ายเข้ามาของ จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม ทำให้โอกาสลงสนามของเขาน้อยลง โดยฤดูกาล 2016/17 ได้ลงตัวจริงแค่ 12 นัดเท่านั้น ก่อนถูกขายไปให้ ลาซิโอ ด้วยค่าตัว 5 ล้านปอนด์ อดัม ลัลลาน่า ลัลลาน่า ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมในฤดูกาลแรกที่ คล็อปป์ เข้ามาคุมทีม โดยแอสซิสต์ไป 6 ลูก ก่อนที่ซีซั่นต่อมาจะทำ 7 แอสซิสต์ และยิงในลีกไป 8 ลูก แต่ต้องโชคร้ายเจออาการบาดเจ็บรบกวน จนหลุดไปเป็นตัวสำรอง และคงอำลาถิ่น แอนฟิลด์ หลังจบฤดูกาลนี้ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ กำลังสำคัญของ ลิเวอร์พูล ในเวลานั้น และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมตลอดช่วงที่ คล็อปป์ คุมทีม oakcityhandyman.com แต่สุดท้ายเจ้าตัวเลือกย้ายไปเล่นให้ บาร์เซโลน่า ตามความฝันในปี 2018 อย่างไรก็ตาม ผลงานไม่ดี จนถูกส่งให้ บาเยิร์น มิวนิค ยืมใช้งาน

ดิว็อค โอริกี้ หัวหอกทีมชาติเบลเยียม ได้ลงเป็นตัวจริงในเกมนั้น หลัง คริสติย็อง เบนเตเก้ กับ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ บาดเจ็บ และจนถึงตอนนี้เขาก็ยังอยู่กับทีม รวมทั้งมีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลที่แล้วด้วย

เป๊ปดวลอาร์เตต้า 5 ประเด็นร้อนก่อนแมนซิตี้ปะทะอาร์เซน่อล


พรีเมียร์ลีกจะกลับมาลงแข่งขันอย่างเป็นทางการและคู่ที่หลายคนจับตามองมากที่สุดคงหนีไม่พ้นบิ๊กแมตช์ระหว่างรองจ่าฝูงอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ปะทะกับ อาร์เซน่อล 


ถือเป็นเกมที่จะส่งผลกระทบต่อแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้และการลุ้นท็อปโฟร์ด้วย ดังนั้นเพื่อเป็นการลั่นกลองรบก่อนศึกบิ๊กแมตช์ เรามีประเด็นที่น่าสนใจก่อนเกมมาให้อ่านกัน
1.เป๊ป ปะทะ อดีตมือขวา มิเกล อาร์เตต้า ถือเป็นมือขวาคนรู้ใจของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า และเขามีส่วนช่วยให้ แมนฯซิตี้ ประสบความสำเร็จมากมายตลอด 3 ฤดูกาล ทว่าช่วงเดือนธันวาคมปีที่แล้ว อาร์เตต้า ตัดสินใจอำลาตำแหน่งเพื่อโยกไปเป็นนายใหญ่ อาร์เซน่อล 

นั่นทำให้ "เรือใบสีฟ้า" ต้องมองหาผู้ช่วยกุนซือคนใหม่ และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาพวกเขาก็ได้แต่งตั้ง ฆวนม่า ลีโย่ โค้ชเลือดกระทิงดุ เป็นมือขวาคนใหม่เป็นที่เรียบร้อยโดยเจ้าตัวเคยเป็นบอสของ กวาร์ดิโอล่า สมัยคุม โดราโดส เด ซินาลัว ทีมในลีกเม็กซิโกช่วงระหว่างปี 2005-2006 ต้องมารอดูกันว่าความสัมพันธ์ของทั้งกุนซือและมือขวาคนนี้จะช่วยยกระดับทีมแมนฯซิตี้ขึ้นไปมากขนาดไหน แต่คืนนี้สิ่งที่น่าจับตามองคงหนีไม่พ้นการปะทะกันครั้งแรกของ เป๊ป และอดีตมือขวาของเขาอย่าง อาร์เตต้า ซึ่งกุนซือแมนฯซิตี้ก็ออกโรงพูดถึงอาร์เตต้าก่อนเกมเลยว่ารู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้ดวลกันและอาร์เตต้าก็เป็นคนที่รู้ไส้รู้พุงเกี่ยวกับ "เรือใบสีฟ้า" เป็นอย่างดี ดังนั้นบิ๊กแมตช์คืนนี้น่าดูน่าชมเหลือเกินว่านายใหญ่ "เดอะ กันเนอร์ส" จะมีเคล็ดลับหยุดอดีตบอสของเขาอย่างไร 2.ต้องหยุดเดอ บรอยน์ เควิน เดอ บรอยน์ ถือเป็นกำลังหลักของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ขาดไม่ได้จริงๆ ฤดูกาลนี้เขาโชว์ฟอร์มสุดยอดอีกครั้งด้วยการเป็นผู้นำแอสซิสต์ของพรีเมียร์ลีก ณ ตอนนี้ (16 แอสซิสต์) และถือเป็นหนึ่งในแค่สองนักเตะในลีกที่ทำแอสซิสต์มากกว่า 10 ครั้ง นอกจากนี้มิดฟิลด์วัย 28 ปียังสร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมถึง 96 ครั้งซึ่งมากกว่านักเตะทุกคนในลีก

nssafame.com

ฤดูกาลนี้ "ปืนใหญ่" ก็เจอ เดอ บรอยน์ แผลงฤทธิไปแล้วในเกมแรกด้วยการยิง 2 ประตู


พร้อมกับคว้า แมน ออฟ เดอะ แมตช์ เมื่อธันวามคมที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นภารกิจสำคัญของ อาร์เตต้า ในคืนนี้คือต้องตัดนักเตะผู้ขับเคลื่อนเกมรุกของแมนฯซิตี้คนนี้ออกจากเกมให้ได้ เราจะเห็นจากสถิติในฤดูกาลนี้ 2 นัดในลีกที่ทีขาด เดอ บรอยน์ ลงเอยด้วยการพ่ายแพ้ต่อ วูล์ฟส์ และแมนฯยูไนเต็ด หากหยุดกองกลางรายนี้ไม่ได้มีสิทธิ์ที่จะปราชัยเหมือนเกมแรก

3.อเกวโร่ vs โอบาเมยอง สิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้การปะทะกันของกุนซือคือการดวลความคมระหว่างกองหน้าของทั้งสองทีมนั่นคือ เซร์คิโอ อเกวโร่ และ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง ทั้งสองกำลังขับเคี่ยวอยู่ในกลุ่มผู้นำดาวซัลโวฤดูกาลนี้ โดย เจมี่ วาร์ดี้ รั้งอันดับ 1 ของตารางที่ 19 ประตูตามมาด้วย ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง ที่ 17 ประตู ขณะที่ เซร์คิโอ อเกวโร่ รั้งอันดับ 3 ด้วยจำนวนประตู 16 ลูก หากใครยังจำกันได้เมื่อฤดูกาลที่แล้ว หัวหอกปืนใหญ่ มารัวประตูเร่งเครื่องในช่วงท้ายๆของฤดูกาลจนทำให้เขาคว้ารางวัลรองเท้าทองคำร่วมกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และซาดิโอ มาเน่ ไม่แน่ว่าฤดูกาลนี้เขาอาจจะทำได้อีกครั้ง 4.เรือใบข่มมิด สถิติการเจอกันในช่วงหลังต้องบอกว่า แมนฯซิตี้ กินเรียบเลยก็ว่าได้เพราะ 6 นัดหลังสุดที่เจอกันในทุกรายการเป็นอาร์เซน่อลที่เป็นฝ่ายปราชัยทั้งหมด ครั้งสุดท้ายที่ "ไอ้ปืนใหญ่" คว้าชัยเหนือ แมนฯซิตี้ ต้องย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปีที่แล้วในศึกเอฟเอ คัพ ที่ อาร์เซน่อล เอาชนะได้ 2-1 แต่หากนับเฉพาะในลีกก็ต้องย้อนกลับไปไกลถึงในปี 2015 ซึ่งเกมนั้น ธีโอ วัลค็อตต์ และโอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ช่วยกันยิงประตูเฉือนชนะแมนฯซิตี้ 2-1 แต่ปัจจุบันทั้งคู่ออกจากสโมสรเป็นที่เรียบร้อย อย่างไรก็ตามในปี 2020 นี้ อาร์เซน่อล ยังคงไม่แพ้ใครในลีก nssafame.com ขณะที่เกมเยือน 7 นัดหลังสุดก็ไม่ปราชัยต่อใครเช่นกัน ทว่าพวกเขาดันเสมอถึง 6 นัดและชนะแค่นัดเดียว 5.หงส์จ้องตาเป็นมัน ฤดูกาลนี้แมนฯซิตี้ทำแต้มหล่นบ่อยครั้งทำให้พวกเขาแทบจะล้มเหลวในการป้องกันแชมป์ลีกแล้วและการปราชัยต่อคู่ปรับร่วมเมืองในนัดล่าสุดทำให้พวกเขาต้องตามหลัง ลิเวอร์พูล ถึง 25 แต้มเลยทีเดียว ตอนนี้ "เรือใบสีฟ้า" ทำได้แค่ยื้อเวลาและเก็บแต้มเพื่อยึดรองจ่าฝูงเท่านั้น 

แต่สำหรับแฟน "หงส์แดง" พวกเขาก็คงต้องแช่งแมนฯซิตี้เพื่อให้ได้แชมป์เร็วที่สุดและ ลิเวอร์พูล ก็มีสิทธิ์ที่จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกตั้งแต่สัปดาห์แรกของการรีสตาร์ทเลยหากคืนนี้ผลการแข่งขันนั้นเป็นใจพวกเขา นั่นคือ แมนฯซิตี้ ต้องพ่ายแพ้คาบ้านต่อ อาร์เซน่อล และสาวก "เดอะ ค็อป" ก็มีสิทธิ์ฉลองแชมป์พรีเมียร์ลีกในวันอาทิตย์ที่ 21 มิ.ย. นี้ทันทีหากพวกเขาคว้าสามแต้มในการดวลกับเพื่อนบ้านอย่าง เอฟเวอร์ตัน 

เดวิสทำสถิติความเร็ว! 6 ประเด็นหลังบาเยิร์นเชือดเบรเมนสอยแชมป์บุนเดสฯ

"เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค การันตีตำแหน่งแชมป์ บุนเดสลีกา เยอรมัน ประจำฤดูกาล 2019/20 ได้ตามคาด 


หลังบุกไปเอาชนะ แวร์เดอร์ เบรเมน 1-0 เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา จากประตูชัยช่วงท้ายครึ่งแรกของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ทำให้ตอนนี้พวกเขาทำคะแนนทิ้งห่าง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทีมอันดับสอง ขาดลอยเรียบร้อย ด้วยช่องว่าง 10 แต้ม ดังนั้นต่อให้ ดอร์ทมุนด์ คว้าชัยรวดใน 3 เกมที่เหลือ ก็ไล่ไม่ทันอยู่ดี และนี่คือ 6 ประเด็นที่น่าสนใจหลังจบเกมที่ เวเซอร์สตาดิโอน 
แชมป์ บุนเดสฯ สมัยที่ 29 ไม่มีใครปฏิเสธว่า บาเยิร์น มิวนิค คือสโมสรมหาอำนาจแห่งวงการฟุตบอลเมืองเบียร์ในทุกยุคทุกสมัย และนี่คือแชมป์ บุนเดสลีกา สมัยที่ 29 ของพวกเขา.... ใช่แล้ว นี่คือแชมป์ บุนเดสลีกา สมัยที่ 29 แต่ถือเป็นแชมป์ลีกสูงสุดเมืองเบียร์สมัยที่ 30 เมื่อนับรวมกับแชมป์ 1 สมัย (ซีซั่น 1931/32) ก่อนเข้าสู่ยุค บุนเดสลีกา ในฤดูกาล 1963/64 และยิ่งไปกว่านั้น นี่คือแชมป์ บุนเดสลีกา สมัยที่ 8 ติดต่อกันของพวกเขา เรียกได้ว่า ตลอดช่วงทศวรรษนี้ (ปี 2010-2020) ตำแหน่งแชมป์ตกเป็นของ "เสือใต้" ถึง 80% เลยทีเดียว (แชมป์ตั้งแต่ซีซั่น 2012/13 ถึง ปัจจุบัน) 

mysupportweb.com

นอยเออร์ เซฟพาแชมป์ 


ถึงแม้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เป็นคนทำประตูชัยให้ทีม และตลอดเกือบทั้งเกมเป็น บาเยิร์น ที่ครองเกมบุกใส่ เบรเมน แต่ต้องบอกเลยว่า มานูเอล นอยเออร์ ผู้รักษาประตูกัปตันทีมคนเก่ง ถือเป็นอีกหนึ่งฮีโร่ที่นำชัยชนะและแชมป์มาให้กับทีม กับจังหวะโชว์ซูเปอร์เซฟลูกโหม่งของ ยูยะ โอซาโกะ ช่วงนาทีสุดท้าย ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของแมตช์นี้เลยทีเดียว 

เลวานดอฟสกี้ เดินหน้าทำสถิติต่อไป  แน่นอนว่า นี่คือฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมที่สุดในอาชีพพ่อค้าแข้งของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ยอดหัวหอกเลือดโปล เพราะหนึ่งตุงที่ทำได้ในเกมนี้ ทำให้ฤดูกาลนี้เจ้าตัวกดไปแล้วถึง 46 ประตู จากการลงเล่นรวมทุกรายการ 40 นัด ดังนั้นถือว่าน่าสนใจเหลือเกินว่า จำนวนประตูของ เลวานดอฟสกี้ ในฤดูกาลนี้ จะไปจบลงที่ตัวเลขอะไร เพราะอย่าลืมว่า บาเยิร์น ยังเหลือเกมในลีกอีก 2 นัด แถมยังต้องแข่งในถ้วย เดเอฟเบ-โพคาล (รอเตะรอบชิงฯ กับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น) และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (กำลังอยู่ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย) ด้วย แล้ว 50 ประตู ไม่ใช่เป้าหมายที่ไกลเกินเอื้อม แชมป์แรกของ ฟลิค ฮันซี่ ฟลิค เทรนเนอร์คนเก่งของ บาเยิร์น เคยได้แชมป์ เวิลด์ คัพ เมื่อปี 2014 ในฐานะผู้ช่วยโค้ชทีมชาติเยอรมนี แต่ในฐานะกุนซือใหญ่นั้น เจ้าตัวยังไม่เคยสัมผัสกับแชมป์ ดังนั้นนี่คือแชมป์แรกของเจ้าตัวในฐานะเฮดโค้ช และฤดูกาลนี้มีลุ้นซิว "ทริปเปิ้ลแชมป์" ด้วย ทั้งๆ ที่อยู่ในตำแหน่งไม่ครบซีซั่นเลย เดวิส สร้างสถิติบุนเดสฯ mysupportweb.com แม้เกมนี้ถูกไล่ออกจากสนามในนาทีที่ 79 (รับใบเหลืองที่สอง) แต่ อัลฟอนโซ่ เดวิส แบ็กซ้ายดาวรุ่ง บาเยิร์น ได้สร้างชื่อให้กับตัวเองอีกครั้งในเรื่องของความเร็ว เพราะช่วงครึ่งแรกมีจังหวะหนึ่งที่เจ้าตัวโชว์สปีดความเร็วที่วัดได้ถึง 36.51 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งถือเป็นสถิติใหม่ของศึก บุนเดสลีกา นับตั้งแต่มีการจดบันทึกสถิติด้านนี้ในฤดูกาล 2013/14 

เบรเมน กำลังจะตกชั้น "เจ้านกนางนวล" แวร์เดอร์ เบรเมน ถือเป็นอีกหนึ่งสโมสรดังของวงการลูกหนังเมืองเบียร์ แต่การปราชัยคารัง เวเซอร์สตาดิโอน นัดนี้ ทำให้พวกเขามีแนวโน้มสูงเหลือเกินที่จะตกชั้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 1979/80 เพราะตอนนี้รั้งอันดับ 17 (รองบ๊วย) ในตารางคะแนน เหลือเกมลงเตะอีก 2 นัด แต่ตามหลัง ไมนซ์ 05 ทีมอันดับ 15 ที่ลงเตะน้อยกว่าหนึ่งเกม 3 แต้ม (ไมนซ์ มีคิวเยือน โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ คืนนี้) ซึ่งดูแล้ว เบรเมน รอดยากมาก และคงจะต้องตกชั้นตามทีมอันดับสุดท้ายอย่าง พาเดอร์บอร์น ไป แต่ถึงกระนั้น เบรเมน ยังมีหวังที่จะจบอันดับ 16 ให้ได้เป็นอย่างน้อย เพื่อที่จะได้เตะเพลย์ออฟ (หาทีมเลื่อนชั้น-ตกชั้นกับทีมอันดับสามใน ลีกา 2)

แชมป์แล้วจ้า! บาเยิร์น10คนบุกทุบเบรเมน ซิวถาดบุนเดสฯ8สมัยติด

บาเยิร์น มิวนิค คว้าแชมป์บุนเดสลีกาเป็นสมัยที่ 8 ติดต่อกันและสมัยที่ 30 ได้เสียที 


หลังบุกไปเอาชนะ เบรเมน 1-0 จากประตูชัยของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ โดยเกมนี้ "เสือใต้" ต้องเหลือ 10 คนช่วงท้ายเกมหลัง อัลฟอนโซ่ เดวิส โดนไล่ออก ทำให้มีเพิ่มเป็น 76 แต้ม หนี "เสือเหลือง" ที่แข่งน้อยกว่าถึง 10 คะแนน กระนั้นการันตีแชมป์แน่นอนแล้วแม้เหลือโปรแกรมอีก 2 นัด ส่วนเบรเมนต้องดิ้นรนหนีตกชั้นต่อไปหลัง ในเกมบุนเดสลีกา นัดที่ 31 เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา
    
ศึก บุนเดสลีกา นัดท่ 31 เมื่อวันอังคารที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าบ้าน แวร์เดอร์ เบรเมน รองบ๊วยอันดับ 17 ของลีก เปิดบ้านรับการมาเยือนของจ่าฝูง บาเยิร์น มิวนิค ที่ฟอร์มสุดยอดมากชนะมา 13 เกมติดต่อกันทุกรายการ โดยฟอร์มล่าสุดของ "นกนางนวล" บุกไปถล่ม พาเดอร์บอร์น 5-1 ขณะที่ "เสือใต้" เฉือนเอาชนะ กลัดบัค 2-1 แมตช์นี้หาก บาเยิร์น มิวนิค คว้าชัยจะการันตีคว้าแชมป์บุนเดสลีกาซีซั่นนี้ทันที เริ่มเกมมาได้แค่ 2 นาที "เสือใต้" ทักทายก่อนเลยหลัง โยชัว คิมมิช วางบอลมาเสาไกลให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ วอลเลย์ด้วยขวาไม่จับบอลพุ่งไปติด มิลอส เวลโควิช ออกหลังไป นาที 18 โอกาสได้ลุ้นของ "นกนางนวล" เกือบชิงขึ้นนำบ้างเช่นกัน หลัง มักซิมิเลี่ยน เอ็กเกชไตน์ ลองกดด้วยขวาหน้ากรอบบอลพุ่งถากเสาแรกออกไปอย่างน่าเสียดาย mymeeti.com นาที 26 แซร์จ นาบรี้ หลุดเข้าไปปาดบอลมากลางประตู บอลย้อนหลัง โธมัส มุลเลอร์ ก่อนแต่งบอลไหลต่อให้ โยชัว คิมมิช ยิงด้วยขวาไปชนคาน กระนั้นไลน์แมนตีธงไปก่อนแล้วว่าจังหวะของ นาบรี้ นั้นล้ำหน้าไปก่อน

mymeeti.com

จบครึ่งแรก เบรเมน ตามหลัง บาเยิร์น มิวนิค 0-1


นาที 33 เยโรม บัวเต็ง เซ็นเตอร์แบ็กของบาเยิร์น ลองส่องไกลดูบ้างแต่บอลแรงไม่พอพุ่งเลียดไปเข้ามือ ยิรี่ พาฟเลนก้า ฝนเริ่มเทลงมาอย่างหนักทำให้ทั้งสองทีมคอนโทรลบอลกันลำบาก กระนั้น นาที 43 ทีมเยือนมาปลดล็อคพังประตูขึ้นนำจนได้ 1-0 เยโรม บัวเต็ง ตักบอลข้ามหัวแนวรับเจ้าถิ่นให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ พักอกก่อนหมุนตัวยิงด้วยขวาเข้าไปอย่างสวยงาม เป็นประตูที่ 31 ในลีกซีซั่นนี้
   
ครึ่งหลัง นาที 55 คิมมิช ตักบอลเข้าไปในกรอบให้ โธมัส มุลเลอร์ ปาดมาเสาแรกให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ กระโดดยิงไขว้เข้าไป แต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นจังหวะลำหน้าของ มุลเลอร์ ไปก่อนแล้ว เจ้าบ้านเกมรุกไม่ดีขึ้นเลย นาที 62 เปลี่ยนรวดเดียวสองคน ถอดเอา มิลอต ราชิชา และ เลโอนาร์โด้ บิทเท่นคอร์ท ออก แล้วส่ง โยชัว ซาร์เก้นท์ และฟิน บาร์เทลส์ ลงเล่นแทน นาที 79 บาเยิร์น มิวนิค ต้องเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน หลัง อัลฟอนโซ่ เดวิส ไปขวาง มิลอส เวลโควิช จนโดนใบเหลืองที่สอง เป็นใบแดงถูกไล่ออกจากสนาม แม้ "เสือใต้" ผู้เล่นจะน้อยกว่าแต่ยังเปิดเกมรุกเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง นาที 81 คิงส์เล่ย์ โกมัน หลุดเข้าไปในกรอบด้านซ้าย ก่อนล็อกหลบเข้าไปตะบันด้วยซ้ายติดเซฟของ ยีรี่ พาฟเลนก้า นาทีสุดท้าย เบรเมน ชวดได้ประตูตีเสมอ หลัง ยูยะ โอซาโกะ โขกเช็ดเล่นทางไปเสาไกล แต่บอลยังไม่ผ่านมือ มานูเอล นอยเออร์ ที่พุ่งปัดปลายนิ้วช่วยทีมไว้ได้อย่างหวุดหวิด

จบเกม บาเยิร์น มิวนิค บุกเอาชนะ เบรเมน หวุดหวิด 1-0 ส่งผลให้พวกเขาผงาดคว้าแชมป์บุนเดสลีกาซีซั่นนี้ทันที แม้จะเหลือโปรแกรมในลีกอีก 2 นัด แต่แต้มนำ ดอร์ทมุนด์ ขาด โดยเป็นแชมป์สมัยที่ 8 ติดต่อกัน และสมัยที่ 30 ส่วน เบรเมน แพ้ เป็นนัดที่ 18 จมรองบ๊วยต้องหนีตกชั้นต่อไป

ผีลุ้นขึ้นที่6! 7 ประเด็นก่อนเกมแมนยูบุกรังเซาธ์แฮมป์ตัน

คืนนี้ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เจออีกหนึ่งบททดสอบสำคัญ ในศึก พรีเมียร์ลีก "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีคิวบ...