นรกเสนายัน กลัวที่ไหน แต่สุดท้ายเตรียมแผนหนีตาย
ย้อนอดีตเมื่อวันวานครั้งที่ทีมชาติไทยต้องไปป้องกันแชมป์ฟุตบอลซีเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่ประเทศอินโดนีเซีย
ซึ่งในครั้งนั้นเหมือนมีคนเขียนบทให้ “เจ้าภาพ”อินโดนีเซีย ต้องเจอกับ “แชมป์เก่า”อย่างประเทศไทย ในช่วงเวลานั้นยังใช้ทีมชาติชุดใหญ่โดยไม่จำกัดอายุ หนึ่งในนักเตะดาวรุ่งที่โผล่มาติดทีมชาติในฐานะดาวยิงของทีมเล็กอย่าง ราชนาวี “เจ้าจ็อบ”ชายชาญ เขียวเสน ซึ่งเพิ่งผ่านการติดทีมชาติครั้งแรกในการเล่นแมตช์พิเศษเจอกับทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาแบบเซอร์ไพร๊ซ์
ก่อนจะมาติดชุดซีเกมส์ ปี 2540 ที่อินโดนีเซีย ได้เล่าให้ฟังถึงประสบการณ์ในครั้งนั้นที่เขาเรียกกันว่า นรกในเสนายัน ซึ่งเป็นสังเวียนฟาดแข้งจุแฟนบอลได้เรือนแสนคน “ผมไปซีเกมส์ที่อินโดฯ มีโอกาสลงตัวจริงแค่นัดเดียวก่อนหน้านั้น แต่พอนัดชิงชนะเลิศได้รับโอกาสได้ลงเป็นกองหน้าตัวจริงคู่กับ “ซิโก้”เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เจอกับ”เจ้าภาพ”อินโดนีเซีย ท่ามกลางแฟนบอลเป็นแสน ๆ คน ถามว่าผมกลัวไหม ผมไม่กลัวนะ เพราะตอนนั้นผมผ่านการฝึกทหารเรือมา เรื่องสภาพจิตใจมันควบคุมได้ มีแต่ความกระหายอยากจะลงเล่น ถึงแม้บรรยากาศมันจะน่ากลัวมาก ๆ ก็ตามที มีเผากระดาษ เผาโน่นเผานี่ตั้งแต่ก่อนเกมแล้ว”
เกมในนัดชิงชนะเลิศ “เจ้าจ็อบ”ทำภารกิจได้อย่างยอดเยี่ยม
โดยยิงประตูดับเสียงเชียร์ให้ไทยนำไปก่อน สมกับที่บอกว่าไม่รู้สึกกลัวกองเชียร์ “ลูกนั้น “พี่โอ่ง”เปิดมาจากด้านซ้าย “พี่โย่ง”วรวุธ โหม่งชงมาแบบน้ำหนักพอดี ผมเลยตวัดด้วยซ้ายแบบบังคับให้เล่นมุมเข้าไป พอยิงเข้าผมก็รีบไปนั่งตรงมุมธง เพื่อรอให้พี่ ๆ เพื่อน ๆ ในทีมเข้ามาร่วมฉลอง ไม่ได้คิดว่าจะเป็นการยั่วยุกองเชียร์เลยแม้แต่น้อย”
แต่ฉับพลันทันใด เหมือนดาวตกอุกาบาต กระทบพื้นที่สนามเสนายัน ก้อนหินนับสิบถูกขว้างลงมาตรงที่ “เจ้าจ็อบ”นั่งรอเพื่อน ๆ พี่ ๆ มาฉลองประตูกันเป็นห่าใหญ่ ทำเอาพวกพี่ ๆ ต้องรีบมาดึงเจ้าตัวออกจากจุดกระสุน(หิน)ตก “ตอนแรกนึกว่าหินก้อนเล็ก มันเฉี่ยวหัวเฉี่ยวขาผมไปหมด พอก้มลงมอง โห ก้อนเท่าลูกมะนาว โดนไปก็แตกเหมือนกัน โชคดีที่ไม่โดน รอดมาได้ เกมนั้นเล่นไปก็ระวังก้อนหินไปมีปามาตลอด นักเตะอินโดฯก็เล่นหนักตามเสียงเชียร์ ผมโดนเข่าใส่น่องจนเจ็บ พักครึ่งอาการเริ่มหนักเล่นต่อไม่ไหว เขาเลยเอา “อัลเฟรด”เนติพงษ์ ศรีทองอินทร์ลงไปแทน” จบเกมนั้นเสมอกันจนต้องมีการดวลจุดโทษตัดสิน ไทยชนะไป 4-2 เป็นฝ่ายคว้าแชมป์ไปครอง marquismgmt.com ทำให้เกิดการเผาสนามเสนายัน “ถามว่ากลัวไหม ก็ไม่นะครับ เพราะเราแค่ไปรออยู่ในห้องแต่งตัว แต่ข้างนอกก็มีทั้งเผาสนาม เผารถนอกสนาม โกลาหลกันใหญ่ เรารออยู่ประมาณ 2-3 ช.ม.
ตอนนั้นในห้องแต่งตัวฝ่ายจัด ให้เราเปลี่ยนชุดเพื่อพรางตัว แบบใส่เสื้อเชิ๊ตลำลองทีมชาติไทย เอาเทปกาวแปะทับธงชาติไทยไม่ให้เห็น กางเกงบางคนมีขายาว บางคนขาสั้น เผื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเอาไม่อยู่และกองเชียร์บุกเข้ามา แต่โชคดีในที่สุดก็สงบ ได้กลับที่พักโดยสวัสดิภาพ ก่อนกกลับไทยพร้อมกับเหรียญทอง ซึ่งเป็นอีกแมตช์ที่ผมประทับใจไม่ลืมในชีวิตการเป็นนักฟุตบอล”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น