เกมคาราบาว คัพ รอบ 4 นัดที่ สเปอร์ส ชนะ เชลซี ในช่วงดวลจุดโทษเมื่อวันอังคารที่ 29 กันยายน ที่ผ่านมา
มีเหตุการณ์ที่เด่นๆ หลายเรื่อง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการที่จู่ๆ เอริก ดายเออร์ ดาวเตะของ "ไก่เดือยทอง" ก็วิ่งออกจากสนามในระหว่างการแข่งขัน โดยสาเหตุที่เขาทำอย่างนั้นก็คือจำเป็นต้องไปเข้าห้องน้ำแบบกะทันหัน และมันก็ทำให้ สเปอร์ส เสียเปรียบเรื่องตัวผู้เล่นไปพักหนึ่ง
ที่จริงมันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่คนเราจะปวดปัสสาวะหรืออุจจาระแบบไม่ทันตั้งตัว และ ดายเออร์ ก็ไม่ใช่นักฟุตบอลคนแรกที่เจอเรื่องแบบนั้นระหว่างการแข่งขัน แถมบางคนอั้นไม่ไหวจนปลดทุกข์ในสนามทั้งแบบนิดหน่อยและแบบเต็มที่ด้วยซ้ำ ซึ่งวันนี้เราจะมายกตัวอย่างที่เด่นๆ ในกลุ่มนั้นสัก 3 คนกัน โดยคนหนึ่งเผลอปลดทุกข์ไปนิดหน่อยก่อนจะไปเข้าห้องน้ำ ส่วนอีก 2 คนไม่แม้แต่ที่จะไปห้องสุขาเลย เซร์คิโอ รามอส กรณีนี้อาจจะเป็นเหตุการณ์ที่หลายคนยังจำได้อยู่ เพราะมันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 มีนาคม ปี 2018 โดยตอนนั้น รามอส กำลังเฝ้าแผงหลังให้กับ มาดริด อย่างขยันขันแข็ง แต่พอถึงนาทีที่ 73 มันก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันกับเขาเมื่อข้าศึกหนักบุกประชิดประตูแบบไม่ทันตั้งตัว และสุดท้ายเขาก็อุจจาระเลอะกางเกงไปนิดหน่อย trigsol.com ทั้งนี้ รามอส ยังต้องการไปปลดทุกข์ให้มันเป็นระเบียบเรียบร้อย เขาเลยเข้าไปหากรรมการ โฆเซ่ มูนวยร่า ในตอนที่เกมมันหยุด พร้อมกับขอไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งพอเชิ้ตดำอนุญาตแล้วนั้น รามอส ก็รีบวิ่งออกจากสนามท่ามกลางความงุนงงของแฟนบอลหลายต่อหลายคน และสำหรับแฟนบอล มาดริด แล้วนั้น ตอนนั้นถือเป็นช่วงที่พวกเขาตึงเครียดสุดๆ เพราะ ซีเนดีน ซีดาน เปลี่ยนตัวครบ 3 คนไปแล้ว ทำให้ มาดริด จำเป็นต้องเล่นแค่ 10 คนไปชั่วคราวในสภาพที่ตอนนั้นสกอร์เสมอกันอยู่ 1-1 เดชะบุญสำหรับ มาดริด ที่ เออิบาร์ ไม่สามารถทำประตูได้ในช่วงที่ รามอส หายไปจากสนาม และหลังจากปลดทุกข์ไปราว 5 นาที รามอส ก็กลับมาเล่นต่อจนจบเกม โดยสุดท้าย มาดริด ชนะไป 2-1 ด้วยประตูชัยในช่วง 6 นาทีสุดท้ายจาก คริสเตียโน่ โรนัลโด้
ปล่อยของคาสนาม!
เยนส์ เลห์มันน์ วันที่ 9 ธันวาคม ปี 2009 เฟาเอฟเบ สตุ๊ตการ์ท ต้องเปิดรัง เมอร์เซเดส-เบนซ์ อารีน่า เจอกับ อูนิเรีย อูร์ซิเซนี่ ทีมจากโรมาเนีย ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม จี นัดสุดท้าย ซึ่งมันเป็นเกมที่สำคัญมากๆ ของทั้ง 2 ทีม เพราะพวกเขากำลังแย่งโควตาการเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายในฐานะรองแชมป์กลุ่ม โดยก่อนลงเล่นวันนั้น อูร์ซิเซนี่ ถือไพ่เหนือกว่าด้วยการเป็นอันดับ 2 ของกลุ่มจากการเก็บไป 8 แต้ม ส่วน สตุ๊ตการ์ท มี 6 คะแนน
นั่นหมายความว่าทางเดียวที่ "ม้าขาว" จะพลิกสถานการณ์เป็นฝ่ายผ่านเข้ารอบต่อไปคือพวกเขาต้องชนะสถานเดียว และนั่นทำให้ เลห์มันน์ มุ่งมั่นในการช่วยทีมอย่างเต็มที่ เขามุ่งมั่นกับการเล่นให้ทีมมากๆ แต่แล้วพอถึงช่วงนาทีที่ 80 เขากลับเกิดปวดปัสสาวะกระทันหัน ซึ่งด้วยความที่มันเข้าสู่ช่วงท้ายเกมแล้วทำให้ถ้าเป็นคนทั่วไปคงเลือกที่จะอั้นเอาไว้ อย่างไรก็ตาม เลห์มันน์ ไม่ทำอย่างนั้น เขาตัดสินใจละทิ้งปากประตูแล้วข้ามป้ายโฆษณาที่อยู่ด้านหลัง พร้อมกับยิงกระต่ายมันตรงนั้นเลย ซึ่งในระหว่างนั้นสายตาของเขาก็ยังจับจ้องเหตุการณ์ในสนามไปด้วย และพอ อูร์ซิเซนี่ ขึ้นเกมบุกมาแล้วนั้น เขาก็รีบกลับมาเฝ้าปากประตูต่อทันที ก่อนที่สุดท้าย สตุ๊ตการ์ท จะชนะไป 3-1 พร้อมกับได้เข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายต่อไป แกรี่ ลินิเกอร์ อังกฤษ หมายมั่นปั้นมือที่จะเปิดตัวในศึก ฟุตบอลโลก 1990 ให้สวยๆ โดยนัดแรกของ "สิงโตคำราม" ในทัวร์นาเมนต์นั้นคือการเจอกับ สาธารณรัฐไอร์แลนด์ ในวันที่ 11 มิถุนายน ปี 1990 ซึ่ง ลินิเกอร์ ก็คือหนึ่งในฟันเฟืองหลักที่จะทำให้เรื่องนั้นเกิดขึ้นได้ หลังจากเขาเพิ่งเป็นดาวซัลโวสูงสุดของศึก ฟุตบอลโลก 1986 และ ลินิเกอร์ ก็ทำประตูในเกมกับ ไอร์แลนด์ ได้จริงๆ แต่สุดท้ายเกมมันก็จบลงด้วยการเสมอกัน 1-1 อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ถูกพูดถึงมากเป็นลำดับต้นๆ ของเกมนั้นไม่ใช่ประตูของ ลินิเกอร์ แต่เป็นการที่ดาวยิงชาวอังกฤษอุจจาระราดกลางสนาม โดยเขาเอาก้นถูไปกับพื้นสนามเพื่อเป็นการเช็ดบั้นท้ายไปในตัว แถมยังเอามือลงไปขูดกับพื้นหญ้าเพื่อแทนการล้างมือด้วย ลินิเกอร์ ไม่พูดถึงเรื่องนั้นนานหลายปี ก่อนที่ในปี 2010 เขาจะเปิดใจถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า "ที่จริงก่อนหน้านี้ผมไม่เคยยอมรับมันน่ะนะ แต่ก็ใช่ มันเกิดขึ้นในเกม ฟุตบอลโลก มันถูกถ่ายเอาไว้ได้ ที่จริงผมปวดๆ ตั้งแต่ช่วงพักครึ่งแล้ว แต่ก็ยังอั้นเอาไว้
ตอนนั้นบอลมันมาทางฝั่งซ้ายและผมก็พยายามที่จะสกัดใส่บางคน ผมยืดขาออกไปแล้วก็อุจจาระออกมา ผมโชคดีมากๆ ที่คืนนั้นฝนมันตกลงมาพอดีจนทำให้ผมทำอย่างนั้นได้ คุณจะเห็นเลยว่าผมขูดพื้นสนามเหมือนกับสุนัขเลย มันเป็นประสบการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของผมเลยล่ะ"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น